Growth Factor คืออะไร? เทคนิคฟื้นฟูผิวและเติมไขมันหน้าที่เห็นผลจริง [อัพเดท 2025]
หากคุณเคยสงสัยว่าการเติมไขมันหน้าแบบไหนถึงจะติดดี อยู่ได้นาน และช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ขึ้นโดยไม่ต้องเติมซ้ำบ่อยๆ คำตอบอยู่ที่ “Growth Factor” ซึ่งเป็นเทคนิคใหม่ที่ทันสมัยในวงการศัลยกรรมความงาม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการฉีดไขมันหน้าให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืนยิ่งขึ้น บทความนี้จะพาคุณมาทำความรู้จักว่า Growth Factor คืออะไร? เหมาะกับใคร? และมีข้อดีอย่างไรเมื่อฉีดร่วมกับการเติมไขมันหน้า
หัวข้อ
Growth Factor คืออะไร?
Growth Factor คือโปรตีนชนิดหนึ่งในร่างกายที่มีหน้าที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และฟื้นฟูผิวหนัง เมื่อนำมาใช้ร่วมกับการฉีดไขมันหน้า จะช่วยให้เซลล์ไขมันมีอัตราการรอดชีวิตสูงขึ้น ลดการสลายตัวของไขมัน และฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูอิ่มฟู สุขภาพดีมากขึ้น
เมื่อมีการนำ Growth Factor มาใช้ร่วมกับการฉีดไขมันจะช่วยเพิ่มอัตราการอยู่รอดของเซลล์ไขมัน ทำให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปติดดีขึ้น ลดอัตราการสลายตัว และช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูของผิวหนังโดยรอบไปพร้อมกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเทคนิค Growth Factor Fat Grafting หรือ Reju Fat จึงเป็นที่นิยมในปัจจุบันเพราะช่วยให้ผลลัพธ์การเติมไขมันหน้าเป็นธรรมชาติและคงอยู่ได้นานขึ้น
ประโยชน์ของการฉีดไขมันร่วมกับ Growth Factor
- ช่วยให้เซลล์ไขมันติดดีขึ้น ไม่สลายเร็ว
- ลดอาการบวมและฟื้นตัวเร็วขึ้น
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวดูเนียนและเต่งตึง
- ฟื้นฟูผิวจากภายใน ลดริ้วรอยและจุดด่างดำ
- ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งเป็นก้อนเหมือนสารเติมเต็มสังเคราะห์
ใครเหมาะกับการฉีด Growth Factor?
- ผู้ที่ต้องการให้ไขมันติดทนนานหลังการเติมไขมันหน้า
- ผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดน้ำ หรือมีริ้วรอยจากอายุ
- ผู้ที่เคยฉีดไขมันแล้วไขมันสลายเร็ว
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากภายในโดยไม่ใช้สารเคมี
- ผู้ที่ผ่านศัลยกรรมและต้องการฟื้นฟูเนื้อเยื่อบริเวณใบหน้า
เห็นผลเร็วไหม? ต้องฉีดบ่อยแค่ไหน?
- เห็นผลเบื้องต้นภายใน 3 วันแรก ผิวชุ่มชื้นขึ้น
- เห็นผลชัดในช่วง 4–6 สัปดาห์ คอลลาเจนและอีลาสตินเริ่มสร้างเพิ่ม
- ผลลัพธ์คงที่หลัง 2–3 เดือน หากดูแลผิวดีสามารถอยู่ได้นาน
- หากใช้ร่วมกับการฉีดไขมัน ทำเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอ
- หากใช้เพื่อฟื้นฟูผิวเพียงอย่างเดียว แนะนำทุก 3–6 เดือน
การเตรียมตัวก่อนฉีด Growth Factor
- งดใช้ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด (เช่น แอสไพริน, วิตามินอี)
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ก่อนทำ 1 สัปดาห์
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
- ดื่มน้ำให้มาก
- แจ้งโรคประจำตัวหรือประวัติแพ้ยาให้แพทย์ทราบ
การดูแลหลังฉีด Growth Factor
- หลีกเลี่ยงการแตะหรือกดบริเวณที่ฉีดใน 24 ชม.
- หลีกเลี่ยงการล้างหน้าหรือแต่งหน้าภายใน 6-12 ชม.
- งดออกกำลังกายหนักใน 48 ชม. แรก
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ หรือแดดจัด
- ดื่มน้ำมากๆ และนอนหลับให้เพียงพอ
ผลข้างเคียงและข้อควรระวัง
- อาการบวม แดง รอยช้ำเล็กน้อย จะหายเองภายใน 1-2 วัน
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคเลือด ตั้งครรภ์ หรือแพ้เลือด
- ควรทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน
ทำไมต้องฉีดที่ PMED Clinic?
- ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องฉีดซ้ำบ่อย
- ใช้เทคนิค Reju Fat ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะ เพื่อให้ไขมันติดทนนานขึ้น
- ดำเนินการโดยแพทย์ศัลยกรรมความงามเฉพาะทาง
- อุปกรณ์ทันสมัย ได้มาตรฐาน ปลอดภัย
- ติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด ดูแลหลังหัตถการครบวงจร
สรุป
การฉีด Growth Factor โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับการเติมไขมันหน้า เป็นนวัตกรรมที่ทันสมัยและเห็นผลจริง ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ฟื้นฟูเซลล์ผิว และเพิ่มโอกาสให้ไขมันติดดีมากยิ่งขึ้น หากคุณกำลังมองหาวิธีดูแลผิวจากภายในและปรับรูปหน้าอย่างปลอดภัยและได้ผลยาวนาน การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคือกุญแจสำคัญ
คำถามที่พบบ่อย?
ฉีด Growth Factor เห็นผลภายในกี่วัน?
โดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์ของการฉีด Growth Factor จะเริ่มสังเกตเห็นได้ในช่วง สัปดาห์แรก โดยผิวจะดูชุ่มชื้นขึ้น และริ้วรอยบางส่วนเริ่มลดลง ผลลัพธ์ที่ชัดเจนจะเห็นได้เต็มที่ภายใน 2-3 เดือน หลังจากที่ Growth Factor ได้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูเซลล์ผิวอย่างเต็มที่
ต้องฉีด Growth Factor บ่อยแค่ไหน?
ความถี่ในการฉีดขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการรักษา หากใช้ร่วมกับการฉีดไขมัน มักทำเพียงครั้งเดียวในขณะเติมไขมันเพื่อช่วยให้ไขมันติดดีขึ้น แต่หากใช้ Growth Factor เพื่อฟื้นฟูผิวเพียงอย่างเดียว อาจต้องฉีดซ้ำทุก 3-6 เดือน เพื่อรักษาสภาพผิวให้ดูสดใสและอ่อนเยาว์
ฉีด Growth Factor เจ็บไหม?
การฉีด Growth Factor เป็นหัตถการที่ไม่เจ็บมาก เนื่องจากแพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กและมีการทายาชาหรือฉีดยาชาก่อนทำหัตถการ ผู้เข้ารับบริการอาจรู้สึกตึงหรือเจ็บเล็กน้อยขณะฉีด แต่ไม่ถึงขั้นเจ็บมากจนทนไม่ไหว และหลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ฉีด Growth Factor มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย ได้แก่ อาการบวม แดง หรือรอยช้ำเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายไปเองภายใน 24-48 ชั่วโมง หากใช้ PRP ที่สกัดจากเลือดของตัวเอง ความเสี่ยงในการแพ้แทบไม่มีเลย อย่างไรก็ตาม หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมมากผิดปกติ หรือมีการติดเชื้อ ควรรีบปรึกษาแพทย์
Growth Factor กับ PRP ต่างกันอย่างไร?
PRP (Platelet-Rich Plasma) คือพลาสม่าที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือด ซึ่งเป็นแหล่งของ Growth Factor ตามธรรมชาติที่สกัดจากเลือดของคนไข้เอง PRP เป็นหนึ่งในแหล่งที่ใช้สกัด Growth Factor มาใช้ในหัตถการความงาม แต่ Growth Factor สามารถได้จากหลายแหล่ง เช่น การสังเคราะห์ทางชีวภาพ หรือการสกัดจากสเต็มเซลล์ ซึ่งมีการนำมาใช้ในวงการความงามเพื่อเสริมสร้างเซลล์ผิวอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ฉีด Growth Factor สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม?
สามารถทำร่วมกับการฉีดไขมัน, ฟิลเลอร์, เลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ผิวอื่น ๆ ได้ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการรักษา แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าควรทำหัตถการใดก่อนหรือหลังเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Growth Factor เหมาะกับใครบ้าง?
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิว, ผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ, ผิวขาดความยืดหยุ่น, หรือผู้ที่ฉีดไขมันหน้าและต้องการให้ไขมันติดดีขึ้น นอกจากนี้ ยังเหมาะกับผู้ที่มีร่องลึกบริเวณร่องแก้ม ใต้ตา หรือขมับตอบ ที่ต้องการให้ใบหน้าดูเต็มและอ่อนเยาว์ขึ้น
ฉีด Growth Factor มีข้อห้ามหรือไม่?
ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด, ผู้ที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง, ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือผู้ที่มีประวัติแพ้เลือดหรือส่วนประกอบของ PRP หากมีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับการรักษา
หากใครยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการฉีด Growth Factor สามารถเข้ามาปรึกษาหมอที่ Pmed Clinic ได้ครับ หมอยินดีให้คำแนะนำอย่างละเอียดเพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนได้รับการรักษาที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดครับ
ติดต่อเรา
- Facebook : Pmed Clinic พีเมด คลินิก
- LINE : PMED Clinic
- Youtube : PMED Clinic
- Instagram : PMED Clinic
- เว็บไซต์ : pmedclinic.com
- แผนที่ : PMED Clinic
PMED Clinic คลินิกศัลยกรรมครบวงจร บริการเติมไขมันหน้า เสริมจมูก แก้จมูกโดยแพทย์เฉพาะทาง เน้นความปลอดภัย ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมดูแลหลังทำครบทุกขั้นตอน
บทความที่เกี่ยวข้อง
