ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้นกลไกการผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติ เริ่มเสื่อมประสิทธิภาพลงจนทำให้เกิดปัญหาผิวมากมายตามมา ไม่ว่าจะริ้วรอย ร่องลึก ความหย่อนคล้อย
ประกอบกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ส่งผลให้หลายๆ ท่าน สูญเสียความมั่นใจในตนเองหากสูบบุหรี่หรือดื่มสุราติดต่อกันเป็นเวลานาน ดื่มน้ำในปริมาณที่ไม่เพียง พักผ่อนน้อยและไม่ทาครีมกันแดดปกป้องตัวเอง ก็จะยิ่งเป็นการเร่งให้เกิดปัญหาอายุผิวอาจแซงหน้าอายุจริงได้
ศัลยกรรมดึงหน้าจึงเป็นหนึ่งในการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าและความมั่นใจในการใช้ชีวิต
Scroll
down
ศัลยกรรมดึงหน้าเป็นหนึ่งในเทคนิคการศัลยกรรมยกกระชับเพื่อแก้ไขปัญหา ความหย่อนคล้อยเนื่องจากอายุที่มากขึ้นมีปัญหาหน้าหย่อนคล้อยมากขึ้นตามวัย เช่น ปัญหาริ้วรอย ร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก มุมปากตก หางตาดูคว่ำลง ทำให้หน้าตาดูไม่สดใส เหมาะกับการศัลยกรรมดึงหน้า Facelift ครอบคลุมตั้งแต่บริเวณใบหน้าส่วนบน ใบหน้าส่วนกลาง และใบหน้าส่วนล่าง โดยแพทย์จะทำการวิเคราะห์ปัญหาความหย่อนคล้อยของคนไข้ พร้อมทั้งออกแบบรูปหน้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยกกระชับเหมาะสมกับคนไข้อย่างเป็นธรรมชาติ
เป็นชั้นนอกสุดของผิวหนัง ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันร่างกายจากสิ่งแปลกปลอม ประกอบด้วยเซลล์ที่ตายแล้วเรียงซ้อนกันหลายชั้น เซลล์ชั้นนอกสุดของ หนังกำพร้าจะหลุดลอกออกทุกๆ 28 วัน
เป็นชั้นที่หนาที่สุดในผิวหนัง ประกอบด้วย เส้นใยคอลลาเจน และอีลาสติน ทำหน้าที่ให้ความแข็งแรง ยืดหยุ่น และกระชับแก่ผิวหนัง ผิวหนังชั้นนี้ยัง ประกอบด้วยต่อมไขมัน ต่อมเหงื่อ และเส้นประสาท
เป็นชั้นที่หนาที่สุดของผิวหนัง ประกอบด้วยเซลล์ไขมัน ทำหน้าที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และปกป้องอวัยวะภายใน
อยู่ถัดลงมาจากชั้นไขมัน แนบติดกับชั้นกล้ามเนื้อ เป็นลักษณะเนื้อเยื่อ ที่มีความเหนียว ช่วยในการพยุงโครงสร้างผิวให้กระชับ ผิวชั้น SMAS เป็นชั้นที่ประสานอยู่กับชั้นกล้ามเนื้อ และชั้นไขมันผิวหนังด้านบน เมื่อเราดึงชั้น SMAS ให้ตึงขึ้น จะส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมยกกระชับขึ้นตามมา
แพทย์จะเริ่มวิเคราะห์และวางแผนแก้ไขปัญหาใบหน้าเฉพาะบุคคลพร้อมให้คำแนะนำแก่ผู้รับบริการอย่างรอบด้าน
เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว
ออกแบบการยกกระชับใบหน้าของผู้รับบริการแต่ละเคส
แบบตัวต่อตัว โดยคำนึงถึงโครงสร้างผิว โครงสร้างใบหน้า
และรูปทรงของใบหน้า รวมถึงความพึงพอใจและความปลอดภัยของผู้รับบริการเป็นหลัก
ก่อนผ่าตัดจะได้รับการดมยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์
เปิดผิวบริเวณที่แพทย์วิเคราะห์ว่าเหมาะสมกับการผ่าตัดดึงหน้าของแต่ละบุคคลและทำการกำจัดไขมันส่วนเกินซึ่งสะสมอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง
โดยแพทย์จะทำการยกกระชับกล้ามเนื้อที่ชั้น SMAS หรือ Superficial Musculo Aponeurotic system ที่มีความลึกระดับ 4.5 mm ให้ตึงขึ้น
ดึงผิวหน้าด้านบนให้ยกกระชับขึ้นพร้อมทั้งตัดผิวหนังส่วนเกินออก
ซ่อนรอยแผลให้มากที่สุดโดยที่แทบจะไม่มีแรงตึงที่ผิวด้านบนเลย แผลจะถูกซ่อนไว้ตามรูปแบบบริเวณที่เลือกยกกระชับ
ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากอายุที่มากขึ้น เป็นปัญหาพบมากในวัย 40+ การยกกระชับใบหน้า Face lift จะช่วยลดความหย่อนคล้อยบนใบหน้า ดึงผิวให้กลับมากระชับยิ่งขึ้น
ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย ร่องแก้มลึก แนวกรามไม่ชัด หรือมีริ้วรอยตามอายุ โดยเฉพาะในช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่ต้องการฟื้นฟูใบหน้าให้กระชับเรียบเนียนมากขึ้น
โดยทั่วไปจะต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1–2 สัปดาห์ อาการบวมและช้ำจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังจากนั้นประมาณ 2–4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละคน
ผลลัพธ์โดยเฉลี่ยจะอยู่ได้นาน 7–10 ปี แต่จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ การดูแลผิวหลังผ่าตัด และการใช้ชีวิต เช่น หลีกเลี่ยงแสงแดด และดูแลสุขภาพผิวอย่างสม่ำเสมอ
อาจพบอาการบวม ช้ำ เจ็บ หรือรู้สึกตึงในช่วงแรก และในบางกรณีอาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น แผลติดเชื้อ หรือเส้นประสาทใบหน้าอ่อนแรงชั่วคราว ซึ่งโอกาสเกิดน้อยมาก หากเลือกทำกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
การทำดึงหน้าพร้อมกับเติมไขมันหน้า เป็นเทคนิคที่ทำร่วมกันได้อย่างปลอดภัยและมักให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น เพราะการดึงหน้าจะช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ส่วนการเติมไขมันจะช่วยเพิ่มความอิ่มฟูในบริเวณที่สูญเสียปริมาตร เช่น ขมับ ใต้ตา หรือแก้ม ทำให้ใบหน้าดูเด็กและมีมิติมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ