ฉีดไขมันหน้ากับการยกกระชับผิวหน้าคู่กันได้ไหม? 

ฉีดไขมันหน้ากับการยกกระชับ

สวัสดีครับวันนี้หมอจะมาอธิบายเกี่ยวกับคำถามที่หลายๆคนสงสัยกันมากว่า “ฉีดไขมันหน้ากับการยกกระชับผิวหน้าสามารถทำคู่กันได้ไหม?” หลายท่านอาจกำลังพิจารณาการทำศัลยกรรมเพื่อปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และเต่งตึงมากขึ้น ซึ่งทั้งสองเทคนิคนี้ถือเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันเนื่องจากช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้นเช่นความหย่อนคล้อยของผิวหนังและปริมาณไขมันที่ลดลงซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าดูโทรมและมีร่องลึก

หลายคนอาจเคยเห็นหรือได้ยินเกี่ยวกับการฉีดไขมันหน้าหรือการยกกระชับผิวหน้ามาก่อนแต่ยังไม่แน่ใจว่าทั้งสองหัตถการนี้สามารถทำร่วมกันได้หรือไม่และถ้าทำแล้วจะให้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร วันนี้หมอจะมาอธิบายให้เข้าใจอย่างละเอียดเพื่อให้ทุกท่านสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่าหัตถการไหนเหมาะสมกับตัวเอง และจะช่วยเสริมสร้างความสวยงามบนใบหน้าได้อย่างไรครับ

การฉีดไขมันหน้าคืออะไร?

การฉีดไขมันหน้า (Fat Grafting หรือ Fat Transfer) เป็นเทคนิคที่ใช้ไขมันของตัวเองมาเติมเต็มบริเวณที่มีปัญหาบนใบหน้าเช่นบริเวณร่องแก้ม ขมับ หน้าผาก ใต้ตา หรือแม้แต่ทั่วทั้งใบหน้าเพื่อเพิ่มความอ่อนเยาว์ให้กับผิว โดยไขมันที่นำมาใช้นั้นจะถูกดูดออกจากส่วนที่มีไขมันสะสมเช่นหน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก ผ่านกระบวนการคัดกรองเพื่อแยกเฉพาะเซลล์ไขมันที่มีคุณภาพดีก่อนนำไปฉีดกลับเข้าสู่ใบหน้า

ข้อดีของการฉีดไขมันคือสามารถให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติเนื่องจากเป็นไขมันของตัวเองทำให้ไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและมีสาร Growth Factors ที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ไขมันที่ฉีดไปนั้นจะติดอยู่ถาวรประมาณ 50-80% และส่วนที่เหลืออาจถูกดูดซึมไปตามธรรมชาติได้

บทความน่ารู้ เติมไขมันหน้า คืออะไร ฉีดแล้วเป็นยังไง รู้ก่อนเติมไขมันหน้าเด็ก

การยกกระชับผิวหน้าคืออะไร?

เมื่ออายุมากขึ้นปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยมักเกิดขึ้นเนื่องจากกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อพังผืดที่ยึดใบหน้าเริ่มเสื่อมสภาพและได้รับผลกระทบจากแรงโน้มถ่วง การยกกระชับผิวหน้า (Facelift) เป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้าซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่

  1. การผ่าตัดดึงหน้าด้วย Endotine (Endotine Facelift) – เป็นเทคนิคการยกกระชับใบหน้าด้วยการใช้ Endotine ซึ่งเป็นวัสดุชีวภาพขนาดเล็กที่สามารถสลายไปเองได้ ใช้สำหรับยึดเนื้อเยื่อและโครงสร้างใบหน้าให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
  2. การดึงหน้า (Facelift) – เป็นเทคนิคศัลยกรรมที่ช่วยยกกระชับผิวหน้าและปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูเต่งตึงขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงมาก
  3. การใช้พลังงานยกกระชับ (Ulthera, Thermage, HIFU) – เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดใช้พลังงานคลื่นเสียงหรือคลื่นวิทยุเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและทำให้ผิวตึงขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่ต้องการทำศัลยกรรมใหญ่และมีอายุ 30-50 ปี

การยกกระชับผิวหน้าจะช่วยให้โครงสร้างผิวดูกระชับขึ้น ลดริ้วรอยและทำให้หน้าดูเด็กลง การเลือกใช้เทคนิคใดนั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละคนครับ

เราสามารถทำฉีดไขมันหน้ากับการยกกระชับผิวหน้าคู่กันได้ไหม?

การทำ Facelift หรือ Endotine สามารถทำได้ทั้งก่อนหรือหลังการฉีดไขมันหน้าครับ หรือถ้าต้องการทำแยกกันก็ควรเว้นระยะเวลาให้เหมาะสม โดยทั่วไป แนะนำให้เว้นช่วงประมาณ 3 เดือน เพื่อให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปเซ็ตตัวดีและติดแน่นที่สุด แต่ถ้าคนไข้พร้อมและต้องการทำหัตถการต่อเนื่อง ก็สามารถทำหลังจากเติมไขมันไปแล้ว อย่างน้อย 1 เดือน ได้ครับ ถ้ามีเวลา แนะนำให้ทำแยกกัน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด แต่ถ้าอยากลดเวลาพักฟื้นและสะดวกทำพร้อมกันก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยคุณหมอจะช่วยประเมินให้เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล HIFU กับการฉีดไขมัน ก็สามารถทำร่วมกันได้ โดยควรเติมไขมันก่อน จากนั้นรอให้ไขมันเซ็ตตัวประมาณ 1 เดือน แล้วค่อยทำ HIFU เพื่อกระชับผิวเพิ่มเติม จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

การฉีดไขมันสามารถทำ ก่อนหรือหลัง การทำ Facelift หรือ Endotine ได้ทั้งหมด อยู่ที่เวลาของคนไข้และแผนการทำหัตถการที่ต้องการ หากมีเวลาควรแยกกันทำเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด แต่ถ้าต้องการประหยัดเวลา ก็สามารถทำไปพร้อมกันได้ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินความเหมาะสมในแต่ละเคสครับ

ประโยชน์ของการทำฉีดไขมันหน้าและการยกกระชับผิวหน้าควบคู่กัน

การทำหัตถการฉีดไขมันหน้าร่วมกับการยกกระชับผิวหน้าสามารถทำพร้อมกันได้ครับซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยให้ผลลัพธ์ของใบหน้าดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยกระบวนการนี้จะช่วยเติมเต็มปริมาตรที่หายไปพร้อมกับการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์อย่างสมดุล โดยไม่ต้องทำศัลยกรรมแยกเป็นหลายครั้งลดเวลาการพักฟื้นและช่วยให้ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ข้อดีของการทำทั้งสองอย่างพร้อมกันคือการเสริมประสิทธิภาพของกันและกัน การยกกระชับช่วยให้โครงสร้างผิวหน้าอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ขณะที่การฉีดไขมันช่วยเติมเต็มบริเวณที่พร่องทำให้ใบหน้ามีมิติและดูเต็มขึ้น นอกจากนี้ไขมันที่ฉีดเข้าไปยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิวด้วย Growth Factors จากเซลล์ไขมัน ซึ่งจะทำให้ผิวหน้าดูสุขภาพดีและกระจ่างใสขึ้นได้ในระยะยาว

อีกหนึ่งประโยชน์สำคัญคือการลดรอยเหี่ยวย่นและเสริมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เมื่อมีการเติมเต็มไขมันในชั้นผิวจะช่วยลดรอยลึกบริเวณร่องแก้ม ใต้ตา และขมับ ทำให้ผิวดูเต่งตึงมากขึ้น นอกจากนี้ไขมันยังช่วยสร้างความสมดุลของใบหน้า ลดความแข็งกระด้างและเพิ่มความนุ่มนวล ทำให้ใบหน้าดูเด็กลงและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น เมื่อรวมกับเทคนิคยกกระชับจะยิ่งช่วยให้รูปหน้าดูกลมกลืนมากขึ้นโดยไม่เกิดความรู้สึกว่าหน้าถูกดึงมากเกินไป

ขั้นตอนการทำ

ขั้นตอนการทำฉีดไขมันหน้า

  1. ประเมินและวางแผนการรักษา – แพทย์จะตรวจสอบโครงสร้างใบหน้าเพื่อกำหนดบริเวณที่ต้องเติมเต็มและคัดเลือกจุดที่เหมาะสมสำหรับการดูดไขมัน
  2. ดูดไขมันและเตรียมเซลล์ไขมัน – ใช้เทคนิคดูดไขมันจากบริเวณที่มีไขมันสะสมเช่นหน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก และนำมาคัดกรองเพื่อเลือกเซลล์ไขมันที่แข็งแรง
  3. ฉีดไขมันเข้าสู่ใบหน้า – แพทย์จะฉีดไขมันในบริเวณที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มเช่นขมับ ร่องแก้ม ใต้ตา หรือกรอบหน้า เพื่อให้ใบหน้าดูเต็มและสมดุล
  4. ดูแลหลังทำและติดตามผล – แนะนำให้หลีกเลี่ยงการกดทับใบหน้า หลีกเลี่ยงความร้อนและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อลดอาการบวมและช่วยให้ไขมันติดทนนาน

ขั้นตอนการทำยกกระชับผิวหน้า

  1. ตรวจสภาพผิวและเลือกเทคนิคการยกกระชับ – แพทย์จะประเมินว่าควรใช้การร้อยไหม เทคโนโลยีพลังงานคลื่นเสียงหรือผ่าตัดดึงหน้า เพื่อให้เหมาะกับปัญหาความหย่อนคล้อยของแต่ละบุคคล
  2. เตรียมความพร้อมของผิวและกระบวนการทำ – ทำความสะอาดและเตรียมผิวในกรณีที่ใช้เครื่องมือยกกระชับหรือเตรียมผ่าตัดหากเป็นการดึงหน้า
  3. ดำเนินการยกกระชับใบหน้า – ใช้เทคนิคที่เลือกในการดึงผิวให้ตึงขึ้น ช่วยลดริ้วรอยและแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย
  4. ดูแลหลังทำและติดตามผล – หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดแรงกดบนใบหน้าและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อลดอาการบวมและให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น

ความเสี่ยงหรือข้อควรระวัง

ถึงแม้ว่าการฉีดไขมันหน้าจะช่วยให้ใบหน้าดูละมุนขึ้น และดูอ่อนเยาว์แต่ก็มีเรื่องที่ต้องระวังนะครับ หลังฉีดอาจมีอาการบวม ช้ำ และในบางคนไขมันที่เติมเข้าไปอาจสลายไปบางส่วนทำให้ต้องมาเติมซ้ำเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น อีกเรื่องที่ต้องระวังคือถ้าไม่ได้ฉีดโดยหมอที่มีประสบการณ์ อาจทำให้ไขมันกระจายไม่สม่ำเสมอส่งผลให้ใบหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือในบางกรณีอาจเกิดก้อนไขมันแข็งและมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้

ส่วนใครที่กำลังคิดจะทำ การดึงหน้า หรือ Endotine ซึ่งเป็นการผ่าตัดดึงหน้า ต้องเข้าใจว่ามีโอกาสเกิดแผลผ่าตัด การบวมช้ำ และบางคนอาจมีแผลเป็นเล็กๆ ถ้าดึงผิวมากเกินไปก็อาจทำให้หน้าดูตึงจนไม่เป็นธรรมชาติได้ ดังนั้นการเลือกหมอที่มีประสบการณ์เป็นเรื่องสำคัญมากครับ สำหรับ HIFU ที่ใช้คลื่นพลังงานช่วยยกกระชับผิวควรเว้นระยะอย่างน้อย 1 เดือนหลังฉีดไขมัน เพราะถ้าทำเร็วเกินไปความร้อนจาก HIFU อาจทำให้ไขมันที่เติมไปสลายเร็วขึ้น ถ้าจะทำการดึงหน้า Endotine หรือ HIFU ควบคู่กับการฉีดไขมันก็ควรคุยกับหมอให้ดีวางแผนให้เหมาะกับตัวเอง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูสวยและเป็นธรรมชาติที่สุดครับ

ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดไขมันหน้าควบคู่กับการยกกระชับผิวหน้า

การทำฉีดไขมันหน้า และการยกกระชับผิวหน้าพร้อมกันสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและยาวนานมากขึ้น การยกกระชับช่วยคืนความกระชับให้กับใบหน้าที่หย่อนคล้อย ขณะที่การฉีดไขมันช่วยเพิ่มปริมาตรให้กับจุดที่มีการสูญเสียไขมัน เช่น ร่องแก้ม ขมับ ใต้ตา และแนวกราม เมื่อทำควบคู่กันจะทำให้ใบหน้าดูสมดุล ไม่แข็งหรือแบนเกินไป และช่วยให้ผิวดูมีชีวิตชีวาและอ่อนเยาว์ขึ้น

นอกจากรูปลักษณ์ที่ดีขึ้นแล้ว การฉีดไขมันยังช่วยฟื้นฟูผิวพรรณเนื่องจากไขมันที่ฉีดเข้าไปมี Growth Factors ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและดูสุขภาพดีขึ้นการทำควบคู่กับการยกกระชับจึงให้ผลที่ครอบคลุมทั้งในเรื่องของโครงสร้างใบหน้าและคุณภาพผิว ลดเลือนริ้วรอย และช่วยให้ผิวเนียนเรียบขึ้น ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลและการดูแลหลังทำหัตถการ โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานและเป็นธรรมชาติมากที่สุดครับ

คำแนะนำจากหมอต้น

  • เลือกคลินิกและแพทย์ที่มีประสบการณ์ สำคัญมากครับ
    ถ้าอยากทำฉีดไขมันและยกกระชับใบหน้าพร้อมกันต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและคุณหมอที่มีประสบการณ์ในการทำหัตถการทั้งสองอย่าง เพื่อให้ผลออกมาดูเป็นธรรมชาติที่สุด ศัลยกรรมไม่ใช่แค่เรื่องความสวยแต่ต้องดูโครงสร้างหน้าให้เหมาะสมด้วย ถ้าทำโดยหมอที่เชี่ยวชาญ ผลลัพธ์จะออกมาสวยและเข้ากับใบหน้าเราครับ
  • เข้าปรึกษาหมอก่อน ทำให้มั่นใจกว่าแน่นอนครับ
    ก่อนตัดสินใจทำควรเข้าพบแพทย์เพื่อประเมินใบหน้าก่อนนะครับว่าต้องเติมตรงไหน และควรใช้เทคนิคไหนร่วมกัน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด เพราะแต่ละคนมีโครงหน้าและปัญหาที่แตกต่างกัน ถ้าแพทย์วางแผนดีตั้งแต่ต้นจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยและปลอดภัยครับ
  • ดูแลตัวเองหลังทำ สำคัญไม่แพ้กันครับ
    การดูแลตัวเองช่วงแรกมีผลต่อความติดทนของไขมันอีกทั้งยังช่วยให้ใบหน้าฟื้นตัวเร็ว หมอแนะนำให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจทำให้ไขมันสลายเร็วเช่นการนวดหน้าแรงๆ หรือออกกำลังกายหนักเกินไป ถ้าดูแลดี ไขมันที่เติมจะติดทนนานครับ
  • นอนให้ถูกวิธี หลีกเลี่ยงแสงแดด ดื่มน้ำเยอะๆครับ
    หมอแนะนำว่าอย่านอนกดทับหน้าหลังเติมไขมันโดยเฉพาะช่วง 2-4 สัปดาห์แรก เพราะอาจทำให้ไขมันเคลื่อนที่และไม่ติดดี นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดเพราะความร้อนอาจกระทบต่อเซลล์ไขมันได้ ดื่มน้ำให้เพียงพอ และเลือกกินอาหารที่ช่วยบำรุงเซลล์ไขมัน จะช่วยให้ไขมันอยู่ได้นานขึ้นครับ
  • ยิ่งดูแลดี ไขมันยิ่งอยู่ได้นาน คุ้มค่าที่สุดครับ
    การเติมไขมันเป็นเหมือนการลงทุนกับตัวเองครับ ถ้าดูแลดี ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานเป็นปี ทำให้ใบหน้าดูเด็กขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ ถ้าปฏิบัติตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัด โอกาสที่ไขมันจะติดดีและให้ผลลัพธ์ที่คงทนก็จะสูงขึ้น หมอแนะนำว่าการดูแลหลังทำสำคัญมากๆ เพราะช่วยให้ใบหน้าดูสวยละมุนและเข้ากับรูปหน้าเราที่สุดครับ

สนใจปลูกผมถาวร: 42G Clinic ปลูกผม

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top