4 เทคนิคหลักที่ใช้ในการแก้จมูกแบบโอเพ่น (Open Revision Rhinoplasty)

การแก้จมูกไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เคยเสริมจมูกมาแล้วและพบกับปัญหาทรงไม่สวย ซิลิโคนเบี้ยว หรือปลายจมูกบางจนเสี่ยงทะลุ การ “แก้จมูกแบบโอเพ่น” หรือ Open Revision Rhinoplasty คือทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะช่วยให้ศัลยแพทย์มองเห็นโครงสร้างภายในจมูกอย่างชัดเจน และสามารถแก้ไขได้ตรงจุดอย่างแม่นยำ ในบทความนี้ หม่อมฉันจะพาท่านผู้หญิงไปรู้จักกับ เทคนิคต่างๆ ที่ใช้ในการแก้จมูกแบบโอเพ่น พร้อมข้อดี ข้อจำกัด และคำแนะนำที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
หัวข้อ

เทคนิคหลักที่ใช้ในการแก้จมูกแบบโอเพ่น
การแก้จมูกแบบโอเพ่นจะเปิดแผลเล็กๆ ที่ฐานกลางจมูก (Columella) เพื่อเปิดผิวหนังขึ้นแล้วให้ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นและจัดการกับโครงสร้างจมูกได้อย่างละเอียด โดยเทคนิคที่แพทย์เลือกใช้นั้นจะขึ้นอยู่กับปัญหาของผู้เข้ารับการรักษา ซึ่งมีทั้งหมด 4 เทคนิคหลักที่นิยมใช้ ดังนี้
1. การใช้กระดูกอ่อนหลังหู (Ear Cartilage Graft)

การใช้กระดูกอ่อนหลังหู (Ear Cartilage Graft) เป็นเทคนิคเสริมปลายจมูกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการแก้จมูกแบบโอเพ่น โดยเฉพาะในกรณีที่ปลายจมูกบาง เสี่ยงทะลุ หรือผู้ที่ต้องการทรงจมูกที่นุ่มละมุนและเป็นธรรมชาติมากขึ้น กระดูกอ่อนที่ใช้จะถูกเก็บจากด้านหลังใบหู ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อจากร่างกายตัวเอง จึงมีความปลอดภัยสูง ไม่ก่อให้เกิดการต่อต้านหรืออักเสบ ช่วยรองปลายจมูกให้ซิลิโคนไม่สัมผัสกับเนื้อโดยตรง ลดโอกาสการทะลุในอนาคต อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปริมาณกระดูกอ่อนหลังหูมีจำกัด เทคนิคนี้จึงเหมาะกับการใช้เฉพาะบริเวณปลายจมูก ไม่เหมาะสำหรับการสร้างโครงสร้างจมูกใหม่ทั้งหมดงับ
เหมาะกับเคส
- ปลายจมูกบาง
- เสี่ยงทะลุ
- ต้องการปลายจมูกที่นุ่มและเป็นธรรมชาติ
ข้อดี
- เป็นเนื้อเยื่อจากร่างกายตัวเอง → ลดความเสี่ยงการอักเสบ
- ช่วยรองปลายจมูกให้ซิลิโคนไม่สัมผัสกับเนื้อโดยตรง
- เสริมความละมุนให้จมูกไม่แหลมหรือแข็งเกินไป
ข้อควรรู้
- ปริมาณที่ใช้ได้มีจำกัด → ใช้ได้เฉพาะการรองปลาย ไม่เหมาะกับการสร้างโครงสร้างใหม่ทั้งหมด
2. การใช้กระดูกอ่อนซี่โครง (Rib Cartilage Graft)

การใช้กระดูกอ่อนซี่โครง (Rib Cartilage Graft) เป็นเทคนิคที่เหมาะสำหรับการแก้จมูกแบบโอเพ่นในเคสที่ซับซ้อนหรือมีโครงสร้างจมูกเดิมเสียหายอย่างรุนแรง เช่น เคยเสริมจมูกหลายครั้งจนเนื้อบาง โครงสร้างพัง หรือมีพังผืดสะสมมาก แพทย์จะเก็บกระดูกอ่อนจากบริเวณซี่โครงของผู้ป่วยมาปั้นขึ้นรูปใหม่ เพื่อสร้างฐานจมูกและยืดปลายให้ได้รูปทรงที่แข็งแรงและมั่นคงในระยะยาว ข้อดีของกระดูกอ่อนซี่โครงคือสามารถใช้ได้ในปริมาณมาก มีความแข็งแรงสูง และคงรูปได้ดี แต่ต้องอาศัยฝีมือของศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพราะต้องควบคุมไม่ให้เนื้อจมูกแข็งหรือดูผิดธรรมชาติ
เหมาะกับเคส
- เคยแก้จมูกหลายครั้ง
- โครงสร้างจมูกเดิมเสียหายมาก
- ต้องการเสริมทั้งโครงสร้างและปลาย
ข้อดี
- ใช้สร้างโครงสร้างจมูกใหม่ได้ทั้งแท่ง
- แข็งแรง คงรูปดี เหมาะกับเคสที่ต้องการยกปลายหรือปรับฐานจมูก
ข้อควรรู้
- ต้องผ่าตัดบริเวณหน้าอกเพื่อเก็บกระดูกอ่อน
- ศัลยแพทย์ต้องมีประสบการณ์สูงในการปั้นและวางโครงสร้าง
3. การใช้เนื้อเยื่อเทียม (ePTFE / Fascia / Dermal Matrix)
การใช้เนื้อเยื่อเทียม เช่น ePTFE (Gore-Tex), Fascia หรือ Dermal Matrix เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้ร่วมในการแก้จมูกแบบโอเพ่น โดยเฉพาะในเคสที่ต้องการเพิ่มความนุ่มให้ปลายจมูก ลดการเห็นขอบซิลิโคน หรือเสริมความเรียบเนียนให้กับทรงจมูก วัสดุเหล่านี้มีคุณสมบัติยืดหยุ่นดี แนบสนิทกับผิว และปลอดภัยในระดับหนึ่ง จึงช่วยลดแรงกดจากซิลิโคนต่อเนื้อปลายจมูก และลดความเสี่ยงต่อการทะลุในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เนื้อเยื่อเทียมยังถือเป็นวัสดุสังเคราะห์ จึงมีโอกาสที่ร่างกายบางรายอาจเกิดการต่อต้านหรือดูดซึมได้ในระยะยาว จึงควรใช้ในปริมาณเหมาะสมและภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
เหมาะกับเคส
- ปลายจมูกบาง
- ต้องการเพิ่มความนุ่มนวล
- เคยมีพังผืดหรือแผลเป็นมาก่อน
ข้อดี
- เพิ่มความนุ่มให้ปลายจมูก
- ช่วยลดการเห็นขอบซิลิโคน
- ใช้ร่วมกับวัสดุอื่นได้อย่างยืดหยุ่น
ข้อควรรู้
- แม้จะปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ยังถือเป็นวัสดุสังเคราะห์
- บางเคสอาจมีปฏิกิริยาต่อต้านหรือดูดซึมได้ในระยะยาว
4. การแก้ไขกระดูกอ่อนกลางจมูก (Septal Extension / Septoplasty)
การแก้ไขกระดูกอ่อนกลางจมูก (Septal Extension / Septoplasty) เป็นเทคนิคที่ใช้ในการปรับโครงสร้างภายในของจมูก โดยเฉพาะในกรณีที่จมูกคด เบี้ยว หรือปลายจมูกสั้นและเชิดผิดธรรมชาติ แพทย์จะทำการปรับหรือต่อขยายกระดูกอ่อนกั้นกลางจมูก (Septum) เพื่อสร้างความสมดุลของจมูกทั้งสองข้าง และช่วยยืดปลายให้ได้รูปทรงที่สวยงามและพุ่งมากขึ้น เทคนิคนี้มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขเคสที่ต้องการเปลี่ยนทรงปลายจมูกอย่างแม่นยำและมั่นคงในระยะยาว โดยอาจใช้ร่วมกับกระดูกอ่อนจากจุดอื่น เช่น หลังหูหรือซี่โครง ทั้งนี้ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างจมูกเพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติที่สุด
เหมาะกับเคส
- จมูกเบี้ยว
- จมูกคดตั้งแต่กำเนิด
- ต้องการให้ปลายจมูกพุ่ง ยืดออก หรือเรียวยาว
ข้อดี
- ปรับสมดุลของจมูกจากภายใน
- ยืดปลายจมูกโดยใช้โครงสร้างจากเนื้อของตัวเอง
- เหมาะกับการออกแบบทรงใหม่ให้แม่นยำยิ่งขึ้น
ข้อควรรู้
- ต้องใช้กระดูกอ่อนร่วม เช่น จาก Septum หรือซี่โครง
- ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

เทคนิคหลักที่ใช้ในการแก้จมูกแบบโอเพ่นเสริมอื่นๆ ที่อาจใช้ร่วมกัน
นอกจากเทคนิคหลักในการเสริมและแก้ไขโครงสร้างจมูกแล้ว ยังมี “เทคนิคเสริมเฉพาะจุด” ที่ศัลยแพทย์อาจเลือกใช้ร่วมในระหว่างการผ่าตัด เพื่อปรับรายละเอียดให้จมูกดูสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของรูปลักษณ์และการทำงานของจมูก ซึ่งเทคนิคเหล่านี้จะช่วยปรับสมดุล เสริมความแข็งแรง และเพิ่มความชัดเจนของรูปทรงจมูกได้อย่างเป็นธรรมชาติ
1. Spreader Graft
Spreader Graft คือการวางแผ่นกระดูกอ่อนแทรกระหว่างผนังกั้นกลางจมูก (Septum) และกระดูกอ่อนด้านข้าง (Upper Lateral Cartilage) มีหน้าที่สำคัญในการขยายช่องลมหายใจช่วยให้การหายใจสะดวกขึ้น โดยเฉพาะในเคสที่ช่องทางจมูกแคบ หรือเกิดการเบียดตัวกันของกระดูกอ่อนหลังเสริมจมูก
นอกจากนี้ยังช่วยทำให้สันจมูกดูเรียวยิ่งขึ้น โดยปรับความต่อเนื่องของสันให้เนียนตลอดแนวจากโคนจมูกถึงปลาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้จมูกดูโด่งแบบธรรมชาติ ไม่เป็นแท่งแข็ง
2. Columella Strut
Columella Strut คือการวางแกนกระดูกอ่อนเล็กๆ ลงบริเวณฐานกลางของจมูก (Columella) เพื่อเพิ่มความมั่นคงและความตั้งตรงของปลายจมูก เทคนิคนี้ช่วยให้ปลายจมูกไม่ตกหรือยวบลงเมื่อเวลาผ่านไป และยังช่วยให้สามารถออกแบบปลายจมูกให้มีมุมที่สวยพอดีระหว่างฐานจมูกกับริมฝีปากบน
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปลายจมูกอ่อน ขาดความแข็งแรง หรือเคยเสริมมาแล้วปลายไม่ตั้งมั่นคง โดยมักใช้ร่วมกับกระดูกอ่อนหลังหูหรือซี่โครงในการวางเสริมฐาน
3. Shield Graft
Shield Graft คือการวางแผ่นกระดูกอ่อนขนาดเล็กบริเวณปลายจมูกในแนวตั้งคล้าย “โล่” เพื่อเสริมความชัดเจนของทรงปลายจมูก เช่น ทำให้ปลายดูพุ่งขึ้น มีรูปทรงปลายชัดเจนขึ้นโดยไม่ต้องใช้ซิลิโคนมากเกินไป เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่ปลายจมูกไม่เด่นชัด หรือปลายแบน ต้องการความพุ่งเฉพาะจุด
Shield Graft ยังช่วยให้การจัดทรงปลายเป็นไปอย่างอ่อนโยนและดูละมุน โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับวัสดุจากร่างกาย เช่น กระดูกอ่อนหลังหู

สรุป
การเลือกเทคนิคในการแก้จมูกแบบโอเพ่น ไม่ใช่เรื่องของ “ความหรู” แต่ต้องขึ้นอยู่กับโครงสร้างเดิมของจมูก ปัญหาที่เกิดขึ้น และความปลอดภัยในระยะยาว ดังนั้นการวางแผนร่วมกับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพื่อให้การแก้ไขในครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ที่ให้ผลลัพธ์สวยงาม เป็นธรรมชาติ และปลอดภัยอย่างแท้จริง
ติดต่อเรา
- Facebook : Pmed Clinic พีเมด คลินิก
- LINE : PMED Clinic
- Youtube : PMED Clinic
- Instagram : PMED Clinic
- เว็บไซต์ : pmedclinic.com
- แผนที่ : PMED Clinic
