ฉีดไขมันหน้าผากคืออะไร? เติมเต็มใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์

เมื่อพูดถึงใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์และสมดุลหลายคนอาจให้ความสำคัญกับแก้ม คาง หรือจมูก แต่จริงๆ แล้ว โครงสร้างและสัดส่วนของใบหน้าก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสมดุลและความสวยงามของใบหน้าด้วยครับ หนึ่งในจุดที่หลายคนอาจมองข้ามคือ “หน้าผาก” ซึ่งเป็นส่วนที่มีผลต่อมิติของใบหน้าอย่างมาก หากหน้าผากแบน ยุบ หรือมีรอยบุ๋ม จะทำให้ใบหน้าดูแข็ง ดูดุ หรือมีอายุเกินจริงครับ
คุณหมอแนะนำว่าการฉีดไขมันหน้าผากเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยเติมเต็มหน้าผากให้มีมิติ ดูนูนสวย และช่วยให้ใบหน้าดูละมุนขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งฟิลเลอร์หรือซิลิโคนซึ่งเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและติดทนนานครับ หมอจะมาเล่าให้ฟังว่าการฉีดไขมันหน้าผากคืออะไร เหมาะกับใคร มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง และต้องดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อให้ไขมันติดดีที่สุดครับ
หัวข้อ
ฉีดไขมันหน้าผากคืออะไร?
การฉีดไขมันหน้าผากคือการนำไขมันจากร่างกายตัวเองเช่นจากต้นขาหรือหน้าท้องมาฉีดเติมเต็มบริเวณหน้าผากที่แบน ยุบ หรือมีรอยบุ๋ม เพื่อให้ดูโหนกนูนและรับกับใบหน้า โดยใช้ เทคนิค Micro Fat Grafting ซึ่งเป็นการฉีดไขมันเป็นชั้นบางๆทำให้กระจายตัวได้ดีและดูเป็นธรรมชาติที่สุด วิธีนี้ไม่เพียงช่วยปรับมิติของใบหน้าให้ดูสมดุลแต่ยังให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติกว่าการใช้ซิลิโคนหรือฟิลเลอร์ การเติมไขมันสามารถออกแบบให้เหมาะกับรูปหน้าของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูพอดีและไม่เป็นก้อน
ไขมันที่ฉีดเข้าไปไม่ใช่แค่ช่วยเติมเต็มหน้าผากเท่านั้นแต่ยังมี Growth Factors ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง และช่วยให้ไขมันติดทนนานขึ้น ต่างจากฟิลเลอร์ที่อยู่ได้เพียง 6-18 เดือน ไขมันสามารถอยู่ได้ 3-5 ปี หรือบางส่วนอาจติดถาวร
ข้อดีของการเติมไขมันหน้าผาก
- ใช้ไขมันจากร่างกายของตัวเอง ลดโอกาสเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน
เนื่องจากเป็นเนื้อเยื่อจากร่างกายของผู้เข้ารับบริการเองจึงลดความเสี่ยงที่ร่างกายจะต่อต้านหรือเกิดอาการแพ้เมื่อเทียบกับสารเติมเต็มอื่น ๆ กระบวนการนี้ช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้กลมกลืนกับผิวหนังและเนื้อเยื่อโดยรอบมากขึ้น - ช่วยให้หน้าผากดูอิ่มขึ้น ลดลักษณะแบนหรือยุบตัวของใบหน้า
หน้าผากที่มีลักษณะแฟบ ยุบ หรือมีรอยบุ๋ม อาจทำให้ใบหน้าดูแข็งและขาดความสมดุล การเติมไขมันสามารถช่วยปรับสัดส่วนของหน้าผากให้มีความโค้งมน รับกับส่วนอื่นของใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูสมดุลขึ้น - ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและลดร่องริ้วรอยบริเวณหน้าผาก
ไขมันที่ฉีดเข้าไปไม่ได้เพียงช่วยเติมเต็ม แต่ยังมีองค์ประกอบที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นและช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากอายุหรือการแสดงสีหน้าซ้ำๆ - ไขมันที่ติดดีสามารถอยู่ได้นาน และไม่ต้องเติมบ่อย
หากเซลล์ไขมันที่ฉีดเข้าไปสามารถปรับตัวเข้ากับร่างกายได้ดี ไขมันส่วนหนึ่งอาจกลายเป็นเนื้อเยื่อปกติและอยู่ได้นานกว่าสารเติมเต็มอื่นๆ แม้ว่าบางส่วนของไขมันอาจถูกดูดซึมไปตามธรรมชาติแต่ผลลัพธ์ที่เหลือสามารถคงอยู่ได้ในระยะยาว - สามารถเติมในปริมาณที่เหมาะสม และปรับตามโครงสร้างเดิมของใบหน้า
การใช้ไขมันช่วยให้สามารถกำหนดปริมาณที่เติมให้เหมาะกับโครงสร้างของแต่ละบุคคล แพทย์สามารถออกแบบให้เข้ากับรูปหน้าของผู้เข้ารับบริการ ทำให้ดูสมดุลและไม่มากหรือน้อยจนเกินไป
ข้อเสียของการเติมไขมันหน้าผาก
- ต้องผ่านกระบวนการดูดไขมันจากร่างกายก่อน
การเติมไขมันจำเป็นต้องใช้ไขมันจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้องหรือต้นขา ซึ่งอาจทำให้มีรอยแผลจากการดูดไขมัน แม้ว่าแผลจะมีขนาดเล็กแต่ก็ต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการติดเชื้อและให้แผลสมานตัวได้ดี - ไขมันบางส่วนอาจสลายไปเองหลังฉีด
หลังจากฉีดไขมันเข้าไปอาจมีบางส่วนที่ถูกดูดซึมโดยร่างกายหรือสลายไปเองตามธรรมชาติ ส่งผลให้ปริมาณไขมันที่เหลืออาจลดลงจากช่วงแรกที่ฉีดเข้าไป แพทย์จึงมักฉีดเผื่อไว้เล็กน้อยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คงที่ในระยะยาว - ต้องใช้ความชำนาญของแพทย์ในการออกแบบปริมาณและตำแหน่งที่เติม
การเติมไขมันหน้าผากต้องคำนึงถึงสัดส่วนและสมดุลของใบหน้า หากเติมมากเกินไปอาจทำให้ดูโป่งผิดธรรมชาติ หรือหากเติมน้อยไปอาจไม่เห็นความแตกต่างที่ชัดเจน จึงต้องอาศัยการวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคลอย่างละเอียด - มีระยะเวลาพักฟื้น และต้องดูแลตัวเองหลังทำ
แม้ว่าจะไม่ต้องนอนพักฟื้นในโรงพยาบาลแต่หลังจากฉีดไขมันอาจมีอาการบวมหรือมีอาการบวมตึงบริเวณที่ดูดไขมันและที่ฉีดไขมัน ซึ่งจะค่อยๆดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อลดอาการบวมและช่วยให้ไขมันติดดีที่สุด
ไม่เหมาะกับผู้ที่มีไขมันในร่างกายน้อยมาก
สำหรับผู้ที่มีรูปร่างผอมมากอาจไม่มีไขมันในปริมาณที่เพียงพอสำหรับการดูดมาใช้เติมเต็มหน้าผาก
ฉีดไขมันหน้าผากเหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีหน้าผากแบนหรือยุบตัว ทำให้ใบหน้าดูแข็งและขาดมิติ
หน้าผากที่แบนหรือยุบลงอาจทำให้ใบหน้าดูแข็ง ไม่ละมุน และขาดความสมดุลกับส่วนอื่นของใบหน้า การเติมไขมันช่วยให้หน้าผากดูโค้งมนและมีความกลมกลืนมากขึ้น - ผู้ที่มีรอยบุ๋ม รอยยุบ หรือกระดูกหน้าผากไม่เรียบ
บางคนอาจมีโครงสร้างกระดูกหน้าผากที่ไม่เรียบหรือเกิดรอยบุ๋มจากอุบัติเหตุ การฉีดไขมันสามารถช่วยเติมเต็มบริเวณที่เป็นรอยเว้า ทำให้พื้นผิวของหน้าผากดูเรียบเนียนขึ้น - ผู้ที่มีร่องริ้วรอยบนหน้าผากจากอายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้นไขมันใต้ผิวหนังจะลดลงทำให้หน้าผากดูแห้ง มีริ้วรอย และขาดความยืดหยุ่น การเติมไขมันช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดร่องริ้วรอย และทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น - ผู้ที่ต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าให้สมดุลมากขึ้น
สำหรับบางคนหน้าผากอาจดูแคบหรือไม่ได้สัดส่วนเมื่อเทียบกับจมูกและคาง การเติมไขมันสามารถช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลมากขึ้นโดยปรับให้หน้าผากรับกับโครงสร้างใบหน้าโดยรวม - ผู้ที่ต้องการวิธีเติมเต็มหน้าผากที่ดูเป็นธรรมชาติกว่า และอยู่ได้นานกว่าวิธีอื่น
การใช้ไขมันจากร่างกายของตัวเองช่วยลดความเสี่ยงจากการแพ้สารเติมเต็มชนิดอื่น อีกทั้งไขมันบางส่วนที่ติดดีสามารถอยู่ได้นาน ทำให้ไม่ต้องเติมบ่อยเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างการฉีดไขมันหน้าผาก การฉีดฟิลเลอร์ และการเสริมหน้าผาก
ปัจจัยเปรียบเทียบ |
ฉีดไขมันหน้าผาก |
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก |
เสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน |
วัสดุที่ใช้ |
ไขมันจากร่างกายของตัวเอง |
สารไฮยาลูโรนิกแอซิด (HA) |
ซิลิโคนเสริมหน้าผาก |
ความเป็นธรรมชาติ |
ดูเป็นเนื้อเดียวกับใบหน้า และผิวสัมผัสใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด |
ดูเป็นธรรมชาติแต่มีโอกาสเกิดเป็นก้อนหรือไหลได้หากฉีดผิดชั้นผิว |
อาจดูแข็งหรือไม่กลมกลืนกับเนื้อเยื่อธรรมชาติ |
ระยะเวลาที่เห็นผล |
เห็นผลหลังฉีด แต่มีอาการบวมในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ไขมันจะเริ่มเซ็ตตัวภายใน 3 เดือน |
เห็นผลทันที และเข้าที่ภายใน 1-2 สัปดาห์ |
เห็นผลหลังผ่าตัด แต่ต้องใช้เวลา 1-2 เดือนเพื่อให้ยุบบวมและเข้าที่ |
ความคงทนของผลลัพธ์ |
3-5 ปี หรือบางส่วนอาจอยู่ถาวร |
6-18 เดือน ต้องฉีดซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์ |
ถาวร แต่ขึ้นอยู่กับการดูแลและคุณภาพของซิลิโคน |
ความเสี่ยงและผลข้างเคียง |
อาจมีอาการบวม หรือไขมันบางส่วนสลายไปเอง ต้องฉีดเผื่อและอาจเติมเพิ่มภายหลัง |
อาจเกิดการจับตัวเป็นก้อน หรือฟิลเลอร์ไหลไปจุดอื่นได้หากฉีดผิดชั้นผิว |
เสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือการเคลื่อนตัวของซิลิโคน และอาจต้องผ่าตัดแก้ไข |
ความเจ็บปวดและระยะเวลาพักฟื้น |
มีแผลเล็กบริเวณที่ดูดไขมัน อาจมีอาการบวม 5-7 วัน แต่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ |
มีอาการบวมเล็กน้อย พักฟื้นสั้น ใช้ชีวิตได้ปกติใน 1-3 วัน |
ต้องพักฟื้นนานกว่า 1-2 สัปดาห์ มีอาการบวมช้ำมากกว่า |
ความเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าผาก |
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขหน้าผากแบนหรือยุบตัวแบบถาวรโดยใช้ไขมันตัวเอง |
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าผากแบบชั่วคราวหรือต้องการทดลองก่อนตัดสินใจทำวิธีอื่น |
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าผากให้มีมิติมากขึ้นแบบถาวรและต้องการความคงทนสูง |
ฉีดไขมันหน้าผาก ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
- ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินรูปหน้าและวางแผนการรักษา
ก่อนทำหัตถการควรเข้าพบแพทย์เพื่อให้ช่วยประเมินโครงสร้างของหน้าผากและวางแผนการเติมไขมันให้เหมาะสม แพทย์จะคำนวณปริมาณไขมันที่ต้องใช้และเลือกบริเวณที่เหมาะสมสำหรับดูดไขมัน - งดยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดล่วงหน้า 7-10 วัน
ควรงดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดเช่นแอสไพริน ไอบูโพรเฟน วิตามินอี น้ำมันปลาและอาหารเสริมบางชนิด เพื่อลดความเสี่ยงของการฟกช้ำและเลือดออกง่าย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดยา - งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ก่อนทำอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
การดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่สามารถส่งผลต่อคุณภาพของไขมันและทำให้การฟื้นตัวช้าลง ควรงดก่อนและหลังทำหัตถการเพื่อให้เซลล์ไขมันสามารถติดได้ดีขึ้น - ดูแลร่างกายให้แข็งแรงและเตรียมไขมันให้เพียงพอ
ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันดีเช่นอะโวคาโด ถั่ว และปลา เพื่อช่วยให้เซลล์ไขมันมีคุณภาพดีและติดง่ายขึ้น - เตรียมเสื้อผ้าที่สบาย และวางแผนการพักฟื้น
ในวันที่ทำหัตถการควรสวมเสื้อผ้าที่หลวม ใส่ง่าย และเลือกชุดที่ไม่ต้องสวมทางศีรษะเพื่อลดแรงกดบริเวณหน้าผาก นอกจากนี้ควรเตรียมแผนการหยุดงานหรือเลี่ยงกิจกรรมหนักๆประมาณ 3-7 วันเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
หลังฉีดไขมันหน้าผาก ต้องดูแลตัวเองอย่างไร?
- หลีกเลี่ยงการกดทับหรือสัมผัสหน้าผากโดยตรง
หลังฉีดไขมันควรหลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณหน้าผากเช่นการนอนคว่ำ วางมือบนหน้าผากหรือใส่หมวกที่รัดแน่น เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันเคลื่อนตัวหรือลดอัตราการติดของไขมัน - งดออกกำลังกายหนักและกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก
ควรงดออกกำลังกายหนักเช่นวิ่ง ยกน้ำหนัก หรือโยคะร้อน เป็นเวลาอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ เพราะการเสียเหงื่อมากอาจทำให้เซลล์ไขมันสลายเร็วขึ้น - ดื่มน้ำให้เพียงพอ และเลือกอาหารที่ช่วยให้ไขมันติดดีขึ้น
ควรดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตรและรับประทานอาหารที่มีไขมันดีเช่นปลาแซลมอน อะโวคาโดและถั่ว เพื่อช่วยบำรุงเซลล์ไขมัน หลีกเลี่ยงอาหารทอด ของหวานจัด และแอลกอฮอล์ที่อาจส่งผลต่อคุณภาพของไขมัน - ดูแลแผลจากการดูดไขมันให้สะอาด และป้องกันการติดเชื้อ
แม้แผลจากการดูดไขมันจะมีขนาดเล็กแต่ต้องรักษาความสะอาดและเปลี่ยนผ้าปิดแผลตามคำแนะนำของแพทย์ หลีกเลี่ยงการแช่น้ำในช่วงแรกเพื่อป้องกันการติดเชื้อ - ติดตามผลและพบแพทย์ตามนัด
ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คผลลัพธ์และดูว่าไขมันติดดีหรือไม่ ในช่วง 1-3 เดือนแรกไขมันจะมีการปรับตัวและบางส่วนอาจสลายไป หากต้องการเติมไขมันเพิ่มควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการเติมให้เหมาะสม
การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องช่วยเพิ่มโอกาสให้ไขมันติดดี และทำให้ผลลัพธ์ของการเติมไขมันหน้าผากคงอยู่ได้นานขึ้น
ฉีดไขมันหน้าผาก มีขั้นตอนอะไรบ้าง?
การฉีดไขมันหน้าผากเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความละเอียดและความแม่นยำของแพทย์ ตั้งแต่การประเมินใบหน้า ดูดไขมัน คัดแยกไขมัน ไปจนถึงการฉีดไขมันเข้าสู่บริเวณหน้าผาก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมดุลและเข้ากับใบหน้าของแต่ละบุคคล โดยมีขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 วิเคราะห์ใบหน้า
- แพทย์จะประเมินโครงสร้างใบหน้าโดยละเอียดเพื่อดูว่าควรเติมไขมันบริเวณไหนให้ดูเป็นธรรมชาติและสมดุลที่สุด การวิเคราะห์นี้ต้องอาศัยทั้งความรู้ทางศัลยกรรมและศิลปะเพื่อให้เข้าใจถึงมิติของใบหน้าอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการเติมไขมันในจุดที่ช่วยปรับสมดุลเช่นขมับตอบหรือแก้มที่ดูตอบมากเกินไป แพทย์จะพิจารณาตามลักษณะใบหน้าของแต่ละบุคคล ไม่สามารถใช้เทคนิคเดียวกับทุกคนได้
ขั้นตอนที่ 2 การดูดไขมัน
- แพทย์จะดูดไขมันจากบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินเช่นต้นขาหรือหน้าท้อง โดยใช้เทคนิคที่ช่วยรักษาคุณภาพของเซลล์ไขมันให้ดีที่สุด ปริมาณไขมันที่ดูดจะตามที่แพทย์ประเมินและใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ส่วนใหญ่คนไข้เลือกฉีดยาชาแทนการดมยาสลบ พราะเจ็บน้อยและสามารถพูดคุยกับแพทย์ระหว่างทำได้
ขั้นตอนที่ 3 การคัดแยกไขมันและสกัด Growth Factors
- ไขมันที่ดูดออกมาจะถูกคัดแยกอย่างละเอียดโดยใช้อุปกรณ์เฉพาะที่ช่วยรักษาคุณภาพของเซลล์ไขมันให้มากที่สุด จากนั้นแพทย์จะนำเลือดของคนไข้มาสกัด Growth Factors เพื่อช่วยให้ไขมันติดดีขึ้นและเพิ่มอัตราการอยู่รอดของไขมันถึง 80-90% Growth Factors เปรียบเสมือนสารอาหารที่ช่วยให้เซลล์ไขมันแข็งแรงและคงอยู่ได้นานขึ้น
ขั้นตอนที่ 4 การฉีดไขมันเข้าสู่ใบหน้า
- แพทย์จะฉีดไขมันเข้าไปตามจุดที่ต้องการเติมเต็มโดยใช้เทคนิค Micro Fat Grafting เพื่อให้ไขมันกระจายตัวเป็นชั้นบางๆและติดทนได้ดี ปริมาณที่ฉีดต้องคำนวณให้พอดีเพราะหากฉีดมากเกินไปอาจทำให้ใบหน้าบวมและดูผิดธรรมชาติ อีกทั้งไขมันที่ใบหน้าหากติดแล้วจะคงอยู่ได้นาน การแก้ไขไขมันส่วนเกินเป็นเรื่องยาก แพทย์จึงต้องมีความเชี่ยวชาญในการฉีดให้สมดุลและเหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละบุคคล
ฉีดไขมันหน้าผากที่ PMED ดีอย่างไร
เทคนิค Reju Fat ด้วย Growth Factor ช่วยให้ไขมันติดทนสูงสุด
ที่ PMED Clinic เราใช้เทคนิคที่เรียกว่า Reju Fat ซึ่งเป็นการนำ Growth Factors มาใช้ร่วมกับการฉีดไขมัน ช่วยเพิ่มอัตราการติดของไขมันได้สูงถึง 80-90% ทำให้ไขมันอยู่ได้นานและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ Growth Factors เหล่านี้ทำหน้าที่เป็นสารอาหารให้เซลล์ไขมัน กระตุ้นการฟื้นฟูเซลล์ และช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง ไม่เพียงแค่เติมเต็ม แต่ยังช่วยให้ผิวสุขภาพดีขึ้นด้วย
แพทย์ผู้ชํานาญการด้านการเติมไขมัน มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี และทำมากกว่า 10,000 เคส
คุณหมอต้น (นพ.ปิยพล พัฒนครู) เป็นศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี และเคสการเติมไขมันมากกว่า 10,000 เคส ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าทุกเคสได้รับการดูแลอย่างมืออาชีพ เทคนิคที่คุณหมอใช้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเติมเต็มใบหน้าเท่านั้น แต่เป็นการปรับสมดุลของโครงหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติ ศิลปะและความแม่นยำในการฉีดไขมันคือสิ่งที่ทำให้คุณหมอแตกต่าง และเป็นเหตุผลที่หลายคนไว้วางใจ
PMED เป็นหนึ่งในคลินิกแรกๆ ที่นำเทคนิคฉีดไขมันเข้ามา และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ที่ PMED Clinic เราเป็นหนึ่งในคลินิกแรกๆในประเทศไทยที่นำเทคนิคการฉีดไขมัน (Fat Grafting) มาใช้ เราได้พัฒนาเทคนิคให้ดียิ่งขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมาและได้คิดค้นและปรับปรุงเทคนิค Reju Fat เพื่อให้ไขมันติดทนขึ้นและทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเราจึงเป็นหนึ่งในคลินิกที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดในด้านนี้
แผลเล็ก เจ็บน้อย พักฟื้นไว เห็นผลลัพธ์เร็ว
การดูดไขมันและฉีดไขมันที่ PMED Clinic ใช้เทคนิคเฉพาะที่ช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อทำให้แผลเล็กมาก เจ็บน้อย และพักฟื้นเร็ว คนไข้ส่วนใหญ่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังทำเพียงไม่กี่วัน การดูแลตัวเองหลังฉีดก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่หลีกเลี่ยงการกดทับใบหน้าและดูแลสุขภาพโดยรวมเพื่อให้ไขมันติดดีที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้คือใบหน้าที่ดูอิ่มฟูขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน
ผลลัพธ์ติดทนนาน 3-5 ปี หรือมากกว่านั้น
ไขมันที่ฉีดเข้าไปสามารถอาจอยู่ถึง 3-5 ปี หรือถาวรในบางส่วน หากดูแลตัวเองดีเทคนิค Reju Fat ที่ PMED Clinic ช่วยเพิ่มอัตราการรอดของเซลล์ไขมัน ลดการสลายตัว และช่วยให้ไขมันสามารถอยู่ได้นานขึ้น ต่างจากการฉีดไขมันแบบทั่วไปที่อาจสลายเร็ว เมื่อไขมันติดดีแล้วใบหน้าจะดูอ่อนเยาว์ไปอีกหลายปีโดยไม่ต้องเติมไขมันใหม่บ่อยๆ
ผลลัพธ์หลังฉีดไขมันหน้าผากอยู่ได้กี่ปี?
สัปดาห์ที่ 1-2: ช่วงฟื้นตัวและเริ่มเข้าที่
- หลังฉีดไขมัน อาจมีอาการบวมและตึงบริเวณหน้าผาก ซึ่งจะค่อย ๆ ลดลงในช่วง 5-7 วันแรก
- ไขมันที่ฉีดเข้าไปยังอยู่ในระยะที่ต้องปรับตัวกับเนื้อเยื่อบริเวณหน้าผาก บางส่วนอาจถูกดูดซึมโดยร่างกาย
- ใบหน้าจะเริ่มดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นภายใน 2 สัปดาห์แรก
เดือนที่ 1-3: ไขมันเริ่มเซ็ตตัวและเข้าที่มากขึ้น
- ไขมันบางส่วนอาจสลายไปในช่วง 4-8 สัปดาห์แรกซึ่งเป็นเรื่องปกติ แพทย์มักฉีดเผื่อไว้เล็กน้อย
- ผิวหน้าผากจะดูเรียบเนียนขึ้นและไขมันที่เหลืออยู่จะเริ่มเซ็ตตัวเป็นเนื้อเดียวกับใบหน้า
- หากมีการสลายตัวของไขมันมาก อาจพิจารณาเติมเพิ่มหลัง 3-6 เดือน
เดือนที่ 3-6: ผลลัพธ์เริ่มคงที่
- ไขมันที่ติดดีในช่วงนี้จะเป็นไขมันที่เหลืออยู่ถาวรและเริ่มเข้าที่จนได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด
- ผิวหน้าผากดูอิ่มฟูและช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ ได้อย่างเห็นได้ชัด
- สามารถใช้ชีวิตประจำวันและทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ
1-5 ปีขึ้นไป: ผลลัพธ์ระยะยาว
- ไขมันที่ติดอยู่จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 3-5 ปีหรืออาจถาวรบางส่วน
- หากดูแลตัวเองดี เช่น หลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วและรับประทานอาหารที่มีไขมันดี ไขมันที่ฉีดสามารถอยู่ได้นานขึ้น
- ในบางกรณีอาจต้องเติมไขมันเพิ่มเติมหากต้องการผลลัพธ์ที่เต็มขึ้นหรือเมื่อเวลาผ่านไป
สรุปการฉีดไขมันหน้าผาก
การเติมไขมันบริเวณหน้าผากเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการให้หน้าผากดูอิ่มขึ้นและรับกับสัดส่วนของใบหน้า การใช้ไขมันจากร่างกายของตัวเองช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูกลมกลืนไปกับเนื้อเยื่อเดิม โดยกระบวนการนี้เริ่มจากการดูดไขมันจากบริเวณที่เหมาะสม นำมาคัดแยก และฉีดกลับเข้าไปที่หน้าผากเพื่อเติมเต็มในจุดที่ต้องการ ผู้ที่มีหน้าผากแบน ยุบ หรือมีรอยบุ๋มสามารถใช้วิธีนี้เพื่อช่วยปรับรูปทรงให้ดูสมดุลมากขึ้น
ผลลัพธ์ของการเติมไขมันสามารถอยู่ได้นานขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง และวิธีที่ใช้ในการฉีด เซลล์ไขมันบางส่วนอาจสลายไปในช่วงแรก แต่ส่วนที่เหลือสามารถอยู่ได้นานหากร่างกายสามารถปรับตัวได้ดี การดูแลหลังทำเช่นหลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณหน้าผาก การรับประทานอาหารที่ช่วยให้ไขมันติด และการพักผ่อนอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเต็มขึ้นและอยู่ได้นานขึ้น
สนใจปลูกผมถาวร: 42G Clinic ปลูกผมถาวร
ติดต่อเรา
- Facebook : Pmed Clinic พีเมด คลินิก
- LINE : PMED Clinic
- Youtube : PMED Clinic
- Instagram : PMED Clinic
- เว็บไซต์ : https://pmedclinic.com/
- แผนที่ : PMED Clinic