PMED Clinic คลินิกเติมไขมันหน้า เสริมจมูก แก้จมูก ศัลยกรรม

ฉีดไขมันใต้ตาและฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เลือกวิธีไหนดีสำหรับคุณ? [อัพเดท 2025]

ฉีดไขมันใต้ตาและฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เลือกวิธีไหนดีสำหรับคุณ? [อัพเดท 2025]
ฉีดไขมันใต้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ หรือเบ้าตาลึก คือหนึ่งในปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและแก่ก่อนวัย ปัจจุบันมี 2 ทางเลือกยอดนิยมในการแก้ปัญหานี้ ได้แก่ “การฉีดไขมันใต้ตา” และ “การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา” แต่หลายคนอาจยังสับสนว่าแบบไหนดีกว่า เหมาะกับตัวเองมากกว่า บทความนี้จะช่วยคุณเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของทั้งสองวิธี เพื่อประกอบการตัดสินใจ

ฉีดไขมันใต้ตาคืออะไร?

การฉีดไขมันใต้ตาคือการดูดไขมันจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้อง หรือต้นขา แล้วนำไขมันบริสุทธิ์ที่ผ่านการคัดแยกมาฉีดกลับเข้าไปใต้ตา เพื่อเติมเต็มร่องลึก ปรับผิวให้ดูเนียนใสอย่างเป็นธรรมชาติ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคือการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปในบริเวณใต้ตา เพื่อแก้ปัญหาใต้ตาลึก เบ้าตาโหล หรือรอยคล้ำ โดยไม่ต้องดูดไขมันจากร่างกาย

ตารางเปรียบเทียบ ฉีดไขมันใต้ตา vs ฟิลเลอร์ใต้ตา

ปัจจัยฉีดไขมันใต้ตาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
วัสดุที่ใช้ไขมันจากร่างกายตัวเองสาร Hyaluronic Acid (HA)
ความเป็นธรรมชาติสูงมากปานกลางถึงสูง
ความเสี่ยงแพ้แทบไม่มีมีโอกาสเล็กน้อย
ความคงทน2-5 ปี (บางส่วนอาจถาวร)6-18 เดือน
ระยะพักฟื้น3-7 วัน (อาจมีอาการบวม)1-3 วัน
ความซับซ้อนของหัตถการสูง (ต้องดูดไขมัน)ต่ำ
ราคาโดยเฉลี่ยสูงกว่าประหยัดกว่า

ข้อดีของการฉีดไขมันใต้ตา

  • ใช้ไขมันจากตัวเอง ไม่มีสารแปลกปลอม
  • ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า
  • มี Growth Factor ที่ช่วยฟื้นฟูผิว
  • เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • ไม่ต้องดูดไขมัน ทำได้เร็ว
  • พักฟื้นน้อย เหมาะสำหรับคนไม่มีเวลา
  • หากไม่พอใจสามารถสลายออกได้ง่าย
  • ราคาย่อมเยากว่าไขมัน

ข้อควรระวัง

ฉีดไขมันใต้ตา

  • ไขมันบางส่วนอาจสลาย
  • ต้องทำโดยแพทย์มีประสบการณ์เท่านั้น
  • มีแผลจากการดูดไขมัน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • เสี่ยงต่อการเกิดก้อน หรือฟิลเลอร์ไหล
  • หากฉีดลึกเกิน อาจเกิดอาการบวมใต้ตา

ควรเลือกแบบไหนดี?

  • หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน ดูเป็นธรรมชาติ และไม่กังวลเรื่องการดูดไขมัน การฉีดไขมันใต้ตาอาจเหมาะกับคุณ
  • หากคุณต้องการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่มีเวลาพักฟื้น และอยากทดลองก่อนตัดสินใจระยะยาว การฉีดฟิลเลอร์คือทางเลือกที่ตอบโจทย์

สรุป

การฉีดไขมันใต้ตาและฟิลเลอร์ใต้ตา ต่างก็มีข้อดีและข้อควรระวังในแบบของตัวเอง การเลือกวิธีใดขึ้นอยู่กับความต้องการ ไลฟ์สไตล์ และงบประมาณของคุณ ที่สำคัญคือควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวิเคราะห์ใบหน้าและเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดกับคุณ

คำถามที่พบบ่อย

ฉีดไขมันใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน?

ไขมันที่ฉีดเข้าไปสามารถอยู่ได้นาน 3-5 ปี หรือบางส่วนอาจอยู่ถาวร ขึ้นอยู่กับอัตราการติดของไขมันและการดูแลหลังทำ เทคนิค Reju Fat ที่ PMED Clinic ช่วยให้ไขมันติดดีขึ้น ลดการสลายตัวของไขมัน ทำให้ผลลัพธ์คงอยู่นานกว่าการฉีดไขมันแบบทั่วไป หากดูแลตัวเองดีเช่นรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงเซลล์ไขมัน หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ไขมันสลายเร็วเช่นการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ไขมันที่ติดแล้วสามารถอยู่ได้นานโดยไม่ต้องเติมซ้ำบ่อยๆ

ฉีดไขมันใต้ตาทำให้ผิวไม่เรียบ จริงหรือไม่?

หากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้เทคนิคที่เหมาะสม โอกาสที่ไขมันจะเป็นก้อนหรือไม่เรียบมีน้อยมาก การกระจายไขมันเป็นชั้นบางๆและฉีดอย่างแม่นยำช่วยให้ไขมันเข้ากับเนื้อเยื่อใต้ตาได้ดี เทคนิค Reju Fat ที่ PMED Clinic ช่วยให้ไขมันกระจายตัวได้ดีขึ้นลดปัญหาการเป็นก้อนหรือไขมันไม่เรียบ อย่างไรก็ตามในช่วงแรกหลังทำอาจมีอาการบวมเล็กน้อยซึ่งจะค่อยๆดีขึ้นและเข้าที่ภายใน 1-3 เดือน

ฉีดไขมันใต้ตา อันตรายหรือไม่?

การฉีดไขมันใต้ตาถือเป็นหัตถการที่ปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญ เนื่องจากใช้ไขมันจากร่างกายของตัวเอง ไม่มีสารสังเคราะห์หรือสารแปลกปลอม ลดโอกาสเกิดอาการแพ้ อย่างไรก็ตามความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ได้แก่ไขมันฉีดผิดชั้น ทำให้เป็นก้อน หรือไขมันสลายไปเร็วเกินไป ดังนั้นควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์เฉพาะทางและมีประสบการณ์ในการฉีดไขมันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด

ฉีดไขมันใต้ตา บวมกี่วัน?

หลังฉีดไขมันใต้ตาอาจมีอาการบวมประมาณ 5-7 วัน ซึ่งเป็นอาการปกติ อาการบวมจะค่อยๆลดลงและเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2-3 สัปดาห์ ผลลัพธ์จะเริ่มเข้าที่สมบูรณ์ในช่วง 1-3 เดือนขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล แนะนำให้หลีกเลี่ยงการกดทับใต้ตา นอนหมอนสูง และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงแรกเพื่อช่วยลดอาการบวมและให้ไขมันติดดีขึ้น

ติดต่อเรา

หมวดหมู่ : ทั่วไป
ฉีด botox

บทความที่เกี่ยวข้อง

Add a heading (5)
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่องลึกบนใบหน้า ความหย่อนคล้อย และผิวที่ดูโทรมล้วนเป็นสัญญาณของวัยที่ใครก็หลีกเลี...
Add a heading (1)
“การเสริมจมูก” เป็นศัลยกรรมยอดฮิตที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติและเสริมความมั่นใจได้อย่างชัดเจน โดยเฉ...
Add a heading (3)
เมื่อผลลัพธ์ของการเสริมจมูกครั้งแรกไม่เป็นไปตามที่หวัง การ “แก้จมูกแบบโอเพ่น” จึงเป็นทาง...
Add a heading (1)
การเสริมจมูกอาจเป็นก้าวแรกสู่ความมั่นใจที่มากขึ้น แต่ในบางครั้งผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่เป็นไปตามคาด หรือเ...
Add a heading
“เสริมจมูก” ถือเป็นศัลยกรรมอันดับต้นๆ ที่หลายคนเลือกทำเป็นครั้งแรกในชีวิต เพราะสามารถเปลี่ยนบุคลิก เ...
Add a heading (4)
การเสริมจมูกถือเป็นศัลยกรรมยอดฮิตที่หลายคนเลือกทำเพื่อเพิ่มความมั่นใจ แต่ก็มีไม่น้อยที่ประสบปัญหาหลั...