PMED Clinic คลินิกเติมไขมันหน้า เสริมจมูก แก้จมูก ศัลยกรรม

PRP คืออะไร? เทคโนโลยีฟื้นฟูผิวด้วยพลาสมาเข้มข้นจากเลือดตัวเอง

PRP คืออะไร? เทคโนโลยีฟื้นฟูผิวด้วยพลาสมาเข้มข้นจากเลือดตัวเอง
10

ในยุคที่เทคโนโลยีความงามและการดูแลสุขภาพพัฒนาอย่างรวดเร็ว การฟื้นฟูผิวด้วยวิธีธรรมชาติก็กลายเป็นที่นิยมมากขึ้น และหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความสนใจอย่างมากในวงการแพทย์ความงามก็คือ PRP (Platelet-Rich Plasma) หรือ การฉีดพลาสมาเข้มข้นจากเลือดตัวเอง ซึ่งถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายว่าเป็นการ “ฟื้นฟูผิวจากภายในสู่ภายนอก” โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีหรือการผ่าตัด บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ PRP อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีทำ ไปจนถึงประโยชน์ที่น่าทึ่ง ที่อาจเปลี่ยนมุมมองของคุณในการดูแลตัวเองไปเลยก็ได้

PRP คืออะไร?

PRP (Platelet-Rich Plasma) หรือพลาสมาเข้มข้นจากเกล็ดเลือด คือเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ใช้เลือดของผู้รับการรักษาเองมาสกัดเอาส่วนที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือดและโปรตีนที่มีคุณสมบัติช่วยในการฟื้นฟูเซลล์และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับใช้ในการฟื้นฟูผิวหน้า ลดริ้วรอย รอยแผลเป็นจากสิว รวมถึงใช้ในวงการเวชกรรมเพื่อการรักษาอาการบาดเจ็บของข้อต่อและเส้นเอ็น

ขั้นตอนการทำ PRP

  1. เจาะเลือด: แพทย์จะทำการเจาะเลือดจากแขนของผู้รับบริการ ปริมาณเลือดที่ใช้ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการรักษา
  2. ปั่นแยกพลาสมา: นำเลือดที่ได้ไปผ่านเครื่องปั่นเพื่อแยกส่วนของ PRP ออกจากเลือด
  3. ฉีด PRP: นำ PRP ที่ได้มาฉีดกลับเข้าสู่ผิวหนังบริเวณที่ต้องการ เช่น ใบหน้า หนังศีรษะ หรือข้อเข่า

ข้อดีของการทำ PRP

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
  • ฟื้นฟูเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอย
  • ลดรอยแผลเป็น รอยสิว
  • เสริมความแข็งแรงของเส้นผมและหนังศีรษะ
  • ลดการอักเสบในข้อต่อหรือเอ็นกล้ามเนื้อ
  • ปลอดภัย เพราะใช้เลือดของตัวเอง ไม่มีสารเคมีแปลกปลอม

PRP เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย จุดด่างดำ หรือผิวหมองคล้ำ
  • ผู้ที่มีแผลเป็นหลุมสิว
  • ผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือผมร่วง
  • ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา เช่น ข้อเข่าเสื่อม เอ็นอักเสบ

หลังทำ PRP ต้องดูแลอย่างไร?

  • หลีกเลี่ยงแสงแดดแรง ๆ และการทาครีมที่มีสารระคายเคือง
  • งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHA, BHA, Retinol อย่างน้อย 2-3 วัน
  • งดแต่งหน้าหรือทาครีมใน 24 ชั่วโมงแรก
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอและพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้เต็มที่

ความถี่ในการทำ PRP

สามารถทำได้ทุก 3–4 สัปดาห์ต่อครั้ง โดยทั่วไปจะแนะนำให้ทำต่อเนื่อง 3–5 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานขึ้น

สรุป

PRP (Platelet-Rich Plasma) คือการใช้พลาสมาเข้มข้นจากเลือดตัวเองมาฟื้นฟูผิวหรือรักษาอาการบาดเจ็บทางร่างกาย เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลผิวแบบธรรมชาติ ไม่พึ่งสารเคมีหรือการศัลยกรรม การทำ PRP จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความงามและสุขภาพ

ติดต่อเรา

PMED Clinic คลินิกศัลยกรรมครบวงจร บริการเติมไขมันหน้า เสริมจมูก แก้จมูกโดยแพทย์เฉพาะทาง เน้นความปลอดภัย ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมดูแลหลังทำครบทุกขั้นตอน

หมวดหมู่ : ทั่วไป
ฉีด botox

บทความที่เกี่ยวข้อง

IMG_5399_11zon
ในปัจจุบันการแก้จมูกไม่ได้เป็นแค่การเปลี่ยนซิลิโคนหรือปรับทรงใหม่เท่านั้น แต่คือการ “ฟื้นฟู” โครงสร้...
9
Endotine คือหนึ่งในนวัตกรรมทางศัลยกรรมความงามที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่...
IMG_1479
ผิวแห้งเป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นในช่วงฤดูกาลที่แห้งแล้งหรือจากการใช้ผลิตภัณฑ์ท...
IMG_1479
ในยุคปัจจุบันที่การเสริมความงามและการดูแลตัวเองเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากหลายคน โบท็อกซ์ (Botox)...
IMG_1479
ในยุคที่การเสริมความงามเป็นที่นิยมอย่างมาก ฟิลเลอร์เป็นคำที่หลายคนคุ้นเคยและรู้จักกันดี แต่หลายคนอาจ...
10
“ผิวแพ้ง่าย” เป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่สร้างความกังวลใจให้กับหลายคน เพราะไม่เพียงแต่ผิวจะไวต่อการระคายเค...