PMED Clinic คลินิกเติมไขมันหน้า เสริมจมูก แก้จมูก ศัลยกรรม

PRP คืออะไร? เทคโนโลยีฟื้นฟูผิวด้วยพลาสมาเข้มข้นจากเลือดตัวเอง

/
/
PRP คืออะไร? เทคโนโลยีฟื้นฟูผิวด้วยพลาสมาเข้มข้นจากเลือดตัวเอง
ทำไมต้องเสริมจมูกแบบโอเพ่นที่ PMED Clinic

ในยุคที่เทคโนโลยีความงามและการดูแลสุขภาพพัฒนาอย่างรวดเร็ว การฟื้นฟูผิวด้วยวิธีธรรมชาติก็กลายเป็นที่นิยมมากขึ้น และหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความสนใจอย่างมากในวงการแพทย์ความงามก็คือ PRP (Platelet-Rich Plasma) หรือการฉีดพลาสมาเข้มข้นจากเลือดตัวเอง ซึ่งถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายว่าเป็นการ “ฟื้นฟูผิวจากภายในสู่ภายนอก” โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีหรือการผ่าตัด บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ PRP อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีทำ ไปจนถึงประโยชน์ที่น่าทึ่ง ที่อาจเปลี่ยนมุมมองของคุณในการดูแลตัวเองไปเลยก็ได้

PRP คืออะไร?

PRP (Platelet-Rich Plasma) หรือพลาสมาเข้มข้นจากเกล็ดเลือด คือเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ใช้เลือดของผู้รับการรักษาเองมาสกัดเอาส่วนที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือดและโปรตีนที่มีคุณสมบัติช่วยในการฟื้นฟูเซลล์และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับใช้ในการฟื้นฟูผิวหน้า ลดริ้วรอย รอยแผลเป็นจากสิว รวมถึงใช้ในวงการเวชกรรมเพื่อการรักษาอาการบาดเจ็บของข้อต่อและเส้นเอ็น

ขั้นตอนการทำ PRP

  1. เจาะเลือด: แพทย์จะทำการเจาะเลือดจากแขนของผู้รับบริการ ปริมาณเลือดที่ใช้ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการรักษา
  2. ปั่นแยกพลาสมา: นำเลือดที่ได้ไปผ่านเครื่องปั่นเพื่อแยกส่วนของ PRP ออกจากเลือด
  3. ฉีด PRP: นำ PRP ที่ได้มาฉีดกลับเข้าสู่ผิวหนังบริเวณที่ต้องการ เช่น ใบหน้า หนังศีรษะ หรือข้อเข่า

ข้อดีของการทำ PRP

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
  • ฟื้นฟูเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอย
  • ลดรอยแผลเป็น รอยสิว
  • เสริมความแข็งแรงของเส้นผมและหนังศีรษะ
  • ลดการอักเสบในข้อต่อหรือเอ็นกล้ามเนื้อ
  • ปลอดภัย เพราะใช้เลือดของตัวเอง ไม่มีสารเคมีแปลกปลอม

PRP เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย จุดด่างดำ หรือผิวหมองคล้ำ
  • ผู้ที่มีแผลเป็นหลุมสิว
  • ผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือผมร่วง
  • ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา เช่น ข้อเข่าเสื่อม เอ็นอักเสบ

หลังทำ PRP ต้องดูแลอย่างไร?

  • หลีกเลี่ยงแสงแดดแรง ๆ และการทาครีมที่มีสารระคายเคือง
  • งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHA, BHA, Retinol อย่างน้อย 2-3 วัน
  • งดแต่งหน้าหรือทาครีมใน 24 ชั่วโมงแรก
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอและพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้เต็มที่

ความถี่ในการทำ PRP

สามารถทำได้ทุก 3–4 สัปดาห์ต่อครั้ง โดยทั่วไปจะแนะนำให้ทำต่อเนื่อง 3–5 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานขึ้น

สรุป

PRP (Platelet-Rich Plasma) คือการใช้พลาสมาเข้มข้นจากเลือดตัวเองมาฟื้นฟูผิวหรือรักษาอาการบาดเจ็บทางร่างกาย เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลผิวแบบธรรมชาติ ไม่พึ่งสารเคมีหรือการศัลยกรรม การทำ PRP จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความงามและสุขภาพ

ติดต่อเรา

PMED Clinic คลินิกศัลยกรรมครบวงจร บริการเติมไขมันหน้า เสริมจมูก แก้จมูกโดยแพทย์เฉพาะทาง เน้นความปลอดภัย ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมดูแลหลังทำครบทุกขั้นตอน

หมวดหมู่ : ทั่วไป
ฉีด botox

บทความที่เกี่ยวข้อง

Pmed Clinic
ถาม-ตอบเรื่องเติมไขมันร่องแก้ม: อยู่ได้นานไหม เจ็บ...
ร่องแก้มลึกเป็นปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและสูญเสียความสดใส การเติมไขมันร่องแก้ม (Fat Grafting)...
Pmed Clinic
วิธีดูแลตัวเองหลังเติมไขมันร่องแก้ม ให้ผลลัพธ์ติดท...
การเติมไขมันร่องแก้มเป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มลึก ทำให้ใบหน้าดูเด็กลง อิ่มฟู และสดใสขึ้นอย่า...
Pmed Clinic
ขั้นตอนการเติมไขมันร่องแก้ม รู้ก่อนตัดสินใจทำ
หลายคนที่กำลังสนใจการแก้ปัญหาร่องแก้มลึก อาจจะได้ยินคำว่า “เติมไขมันร่องแก้ม” มาบ้างแล้ว แต่ยังไม่แน...
Pmed Clinic
ข้อดีของการเติมไขมันร่องแก้มที่คุณควรรู้
ร่องแก้มลึกเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและสูญเสียความสดใส การแก้ไขมีหลายวิธี แต่หนึ่งใ...
Pmed Clinic
ใครบ้างที่เหมาะกับการเติมไขมันร่องแก้ม
ร่องแก้มลึกเป็นปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและสูญเสียความสดใส การแก้ไขปัญหานี้มีหลายวิธี แต่หนึ่ง...
Pmed Clinic
ร่องแก้มลึกคืออะไร? ปัญหาที่ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัยแ...
ร่องแก้มลึกเป็นหนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่หลายคนกังวล เพราะทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า โทรม และแก่กว่าวัย แม้...