PMED Clinic คลินิกเติมไขมันหน้า เสริมจมูก แก้จมูก ศัลยกรรม

ตอกฐานจมูกคืออะไร? เจาะลึกเทคนิคปรับฐานจมูกให้ได้รูปอย่างเป็นธรรมชาติ [อัปเดต 2025]

ตอกฐานจมูกคืออะไร? เจาะลึกเทคนิคปรับฐานจมูกให้ได้รูปอย่างเป็นธรรมชาติ [อัปเดต 2025]
pmed-article-_40_

หลายคนที่ต้องการเสริมจมูกให้โด่งสวยแต่กลับรู้สึกว่า “จมูกยังดูใหญ่ ฐานกว้าง หรือไม่เข้ารูป” แม้จะผ่านการเสริมซิลิโคนมาแล้ว นั่นเพราะ “ฐานกระดูกจมูก” คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสมดุลของรูปหน้า การตอกฐานจมูกจึงกลายเป็นหนึ่งในเทคนิคศัลยกรรมยอดนิยมที่ช่วยให้รูปจมูกดูเรียวเข้ารูปมากขึ้นอย่างถาวร ในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักว่าตอกฐานจมูกคืออะไร? พร้อมทั้งประเภท ข้อดีและข้อเสีย ไปจนถึงว่าใครเหมาะกับวิธีนี้บ้าง?

ตอกฐานจมูกคืออะไร?

การตอกฐานจมูก (Nasal Osteotomy) คือการปรับโครงสร้างกระดูกบริเวณฐานจมูกทั้งสองข้างให้แคบลง เพื่อให้จมูกดูเรียวขึ้น รับกับซิลิโคนหรือวัสดุเสริมได้อย่างพอดี เทคนิคนี้นิยมทำร่วมกับการเสริมจมูก เพื่อให้ได้รูปทรงที่ชัดเจน สวย และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือเฉพาะในการ “ตอก” กระดูกอย่างแม่นยำโดยไม่กระทบกับเนื้อเยื่อข้างเคียง

เทคนิคการตอกฐานจมูกมีกี่แบบ?

การตอกฐานจมูกสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 รูปแบบหลัก ได้แก่

1. ตอกฐานจมูกแบบเปิด (Open Nasal Osteotomy)

เทคนิคนี้จะเปิดแผลบริเวณฐานจมูกด้านนอกและยกเนื้อเยื่อเพื่อให้เห็นโครงสร้างกระดูกโดยตรง เหมาะกับผู้ที่มีฐานจมูกกว้าง กระดูกหนา หรือจมูกเบี้ยวจากโครงสร้างเดิม ทำให้แพทย์สามารถจัดตำแหน่งฐานจมูกใหม่ได้อย่างแม่นยำ ข้อดีคือสามารถควบคุมผลลัพธ์ได้ดี แต่มีระยะพักฟื้นยาวกว่าเพราะเปิดแผลใหญ่กว่า

2. ตอกฐานจมูกแบบปิด (Closed Nasal Osteotomy)

วิธีนี้ไม่ต้องเปิดแผลภายนอก ใช้การตอกจากด้านในรูจมูก เหมาะกับผู้ที่มีฐานจมูกกว้างไม่มากและไม่ต้องการผ่าตัดใหญ่ ข้อดีคือแผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว บวมช้ำน้อย แต่ปรับแก้โครงสร้างได้จำกัด ไม่เหมาะกับผู้ที่มีฐานจมูกเบี้ยวมาก

3. ตอกฐานจมูกแบบกึ่งเปิด (Semi-Open Nasal Osteotomy)

เทคนิคกึ่งเปิดคือการผสานข้อดีของแบบเปิดและปิด โดยเปิดแผลเล็กภายนอก ร่วมกับเข้าจากด้านในจมูก ช่วยให้เห็นฐานกระดูกชัดขึ้นและควบคุมการตอกได้ดี เหมาะกับผู้ที่มีฐานจมูกกว้างหรือไม่สมมาตรปานกลาง ต้องการผลลัพธ์แม่นยำแต่ไม่อยากพักฟื้นนาน

ข้อดีของการตอกฐานจมูก

  1. ช่วยให้จมูกดูเรียวและสมส่วนมากขึ้น – การตอกฐานช่วยลดขนาดฐานจมูกที่กว้างเกินไป ทำให้ทรงจมูกดูละมุน เข้ากับใบหน้า และดูพุ่งขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งซิลิโคนที่สูงจนเสี่ยงทะลุ เหมาะกับคนที่จมูกแบนหรือกว้าง
  2. ลดโอกาสที่จมูกจะเบี้ยวหรือเอียงหลังเสริม – หากฐานจมูกไม่สมดุล การวางซิลิโคนอาจไม่แนบพอดี ทำให้เอียงในอนาคต การตอกฐานช่วยให้วัสดุเสริมแนบสนิทกับกระดูกมากขึ้น ส่งผลให้รูปทรงจมูกอยู่ตัวและดูเป็นธรรมชาติ
  3. ปรับแต่งโครงสร้างจมูกได้อย่างละเอียด – ในเทคนิคแบบโอเพ่น ศัลยแพทย์สามารถตอกและปรับฐานกระดูกได้อย่างแม่นยำ แก้ปัญหาจมูกเบี้ยว ฐานไม่เท่ากัน หรือกระดูกนูน ช่วยให้ผลลัพธ์ดูสมมาตรและเหมาะกับโครงหน้า
  4. ช่วยให้จมูกดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นแท่งแข็ง – หากไม่ตอกฐานและใช้ซิลิโคนสูง อาจทำให้จมูกดูโด่งแข็งเป็นแท่ง การตอกฐานช่วยให้จมูกดูมีมิติ เนียนรับกับใบหน้า เหมาะกับผู้ที่ชอบลุคธรรมชาติ ไม่ดูศัลยกรรมจ๋า
  5. สามารถทำร่วมกับเทคนิคเสริมอื่นได้ – การตอกฐานสามารถทำร่วมกับเทคนิคอื่นๆ เช่น การรองปลายด้วยกระดูกอ่อน การใช้เนื้อเยื่อเทียม หรือเสริมจมูกแบบโอเพ่นได้อย่างลงตัว เพื่อผลลัพธ์ที่สวยครบทุกมิติ

ข้อเสียของการตอกฐานจมูก

  1. พักฟื้นนานกว่าการเสริมจมูกทั่วไป – เนื่องจากเป็นการผ่าตัดกระดูกโดยตรง ผู้ป่วยอาจมีอาการบวมช้ำมากกว่าปกติ โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา ระยะพักฟื้นอาจใช้เวลาราว 2–4 สัปดาห์ และควรวางแผนการลางานให้เหมาะสม
  2. อาการบวมช้ำมากกว่าปกติ – เนื่องจากมีการกระทบกระดูกโดยตรง อาการบวมอาจมากกว่าการเสริมจมูกธรรมดา ต้องอาศัยเวลาให้ร่างกายฟื้นตัว และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น การประคบเย็น นอนยกหัวสูง
  3. ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการเสริมจมูกทั่วไป – การตอกฐานเป็นเทคนิคที่ซับซ้อน ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการเสริมจมูกแบบทั่วไป แต่ก็คุ้มค่าในระยะยาว หากช่วยลดโอกาสต้องแก้จมูกในอนาคต
  4. ต้องเลือกศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง – การตอกฐานต้องการความแม่นยำมาก หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์เพียงพอ อาจเกิดปัญหากระดูกไม่เท่ากันหรือจมูกเบี้ยวได้ จึงควรเลือกแพทย์ที่มีผลงานและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านนี้
  5. มีความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน – แม้จะช่วยปรับทรงจมูกได้ดี แต่การตอกฐานก็มีความเสี่ยง เช่น กระดูกไม่ติดกันดี หรือเกิดพังผืดในตำแหน่งที่ตอก อาจต้องผ่าตัดซ้ำหากผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาด

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย

  • อาการบวมและช้ำบริเวณจมูกและรอบดวงตา – เป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยหลังการตอกฐานจมูก เนื่องจากเป็นการกระทบกับโครงสร้างกระดูก อาการบวมและช้ำจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ แนะนำให้ประคบเย็นในช่วง 48 ชั่วโมงแรกและนอนหมอนสูงเพื่อลดอาการบวม
  • อาการปวดและตึงบริเวณจมูก – หลังทำ อาจรู้สึกปวดหรือไม่สบายบริเวณจมูกเนื่องจากกระดูกที่ถูกปรับแต่ง อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดที่แพทย์สั่ง และมักจะดีขึ้นภายในไม่กี่วัน
  • เลือดออกเล็กน้อย – ในช่วง 1-3 วันแรก อาจมีเลือดซึมออกมาจากแผลด้านในจมูก ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ควรระวังไม่ให้จมูกกระทบกระเทือนและหลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรงๆ

ผลข้างเคียงที่พบได้น้อยแต่ต้องระวัง!

  • จมูกเบี้ยวหรือไม่สมมาตร – หากตอกฐานจมูกไม่สมดุล อาจทำให้โครงสร้างจมูกผิดรูปเช่นจมูกเบี้ยว หรือฐานจมูกไม่เท่ากัน แนะนำให้เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อลดความเสี่ยงนี้
  • การติดเชื้อ – หากสถานที่ผ่าตัดไม่สะอาด หรือดูแลแผลไม่ดีพอ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ บวมแดงผิดปกติ หรือมีหนอง ควรดูแลความสะอาดและรับประทานยาฆ่าเชื้อตามแพทย์สั่ง
  • อาการชาหรือสูญเสียความรู้สึกบริเวณจมูก – ในบางกรณีเส้นประสาทบริเวณจมูกอาจได้รับผลกระทบ ทำให้รู้สึกชาหรือไวต่อความรู้สึกลดลง อาการนี้มักจะค่อยๆ ดีขึ้นในระยะเวลา 1-3 เดือน

ขั้นตอนการตอกฐานจมูก

  1. การวิเคราะห์โครงสร้างจมูกและการวางแผน
  2. การดมยาสลบหรือฉีดยาชา
  3. การเปิดแผลเพื่อเข้าถึงกระดูกจมูก
  4. การตอกฐานด้วยเครื่องมือเฉพาะ
  5. การจัดโครงสร้างกระดูกให้สมดุล
  6. การเย็บแผลและดูแลหลังผ่าตัด

ใครเหมาะกับการตอกฐานจมูก?

  • ผู้ที่มีฐานจมูกกว้าง หนา หรือเบี้ยว
  • เคยเสริมจมูกมาแล้วแต่รูปทรงยังไม่เข้ารูป
  • ต้องการปรับรูปทรงจมูกให้ดูเรียวขึ้นแบบถาวร
  • คนที่มีปัญหาโครงสร้างกระดูกจมูกแต่กำเนิด

สรุป

การตอกฐานจมูกเป็นเทคนิคเสริมจมูกที่ช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลมากขึ้น ด้วยการปรับฐานกระดูกให้รับกับรูปหน้าและวัสดุเสริมอย่างลงตัว หากคุณมีปัญหาฐานจมูกกว้าง เบี้ยว หรือเสริมแล้วดูไม่เข้ารูป การตอกฐานอาจเป็นคำตอบที่ใช่ แต่ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ และวางแผนร่วมกับการเสริมจมูกอย่างรอบคอบเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

การตอกฐานจมูกต้องทำพร้อมเสริมจมูกหรือไม่?

ไม่จำเป็นต้องทำพร้อมกันเสมอไป แต่แพทย์มักแนะนำให้ทำร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยและสมดุลที่สุด

ตอกฐานแล้วจมูกจะหักหรือเสียรูปไหม?

หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ กระดูกจะถูกตอกอย่างแม่นยำ และสามารถเชื่อมกลับเข้ารูปได้เองตามธรรมชาติ

หลังตอกฐานจมูกจะบวมมากไหม?

บวมและช้ำเป็นปกติในช่วง 3–7 วันแรก และจะดีขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 2 สัปดาห์

การตอกฐานจมูกอันตรายไหม?

การตอกฐานจมูกถือเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ เพราะเกี่ยวข้องกับกระดูกและโครงสร้างของจมูกโดยตรง แม้ว่าการตอกฐานจมูกจะเป็นวิธีที่ช่วยให้จมูกดูเรียวขึ้นและรับกับใบหน้ามากขึ้น แต่หากทำโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์หรือขาดการวางแผนที่ดี อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้

ติดต่อเรา

PMED Clinic คลินิกศัลยกรรมครบวงจร บริการเติมไขมันหน้า เสริมจมูก แก้จมูกโดยแพทย์เฉพาะทาง เน้นความปลอดภัย ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมดูแลหลังทำครบทุกขั้นตอน

ป้ายกำกับ : PMED Clinic
ฉีด botox

บทความที่เกี่ยวข้อง

IMG_5399_11zon
ในปัจจุบันการแก้จมูกไม่ได้เป็นแค่การเปลี่ยนซิลิโคนหรือปรับทรงใหม่เท่านั้น แต่คือการ “ฟื้นฟู” โครงสร้...
9
Endotine คือหนึ่งในนวัตกรรมทางศัลยกรรมความงามที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่...
IMG_1479
ผิวแห้งเป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นในช่วงฤดูกาลที่แห้งแล้งหรือจากการใช้ผลิตภัณฑ์ท...
IMG_1479
ในยุคปัจจุบันที่การเสริมความงามและการดูแลตัวเองเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากหลายคน โบท็อกซ์ (Botox)...
IMG_1479
ในยุคที่การเสริมความงามเป็นที่นิยมอย่างมาก ฟิลเลอร์เป็นคำที่หลายคนคุ้นเคยและรู้จักกันดี แต่หลายคนอาจ...
10
“ผิวแพ้ง่าย” เป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่สร้างความกังวลใจให้กับหลายคน เพราะไม่เพียงแต่ผิวจะไวต่อการระคายเค...