ฉีดไขมันใต้ตาคืออะไร? เทคนิคคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ

ใต้ตาลึก ร่องตาชัด และความหมองคล้ำ คือสัญญาณที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและมีอายุเกินจริง แม้จะพักผ่อนเพียงพอหรือแต่งหน้าอย่างไร ก็อาจยังไม่ช่วยให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นได้ “การฉีดไขมันใต้ตา” จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมในการฟื้นฟูใบหน้าแบบเป็นธรรมชาติ โดยใช้ไขมันจากร่างกายของเราเอง วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับหัตถการนี้อย่างละเอียด ทั้งข้อดี ข้อควรระวัง และผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดไขมันใต้ตา
หัวข้อ
ฉีดไขมันใต้ตาคืออะไร?
การฉีดไขมันใต้ตา (Under Eye Fat Grafting) คือการดูดไขมันจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้อง หรือต้นขา แล้วนำมาผ่านกระบวนการคัดแยกให้ได้เฉพาะไขมันบริสุทธิ์ จากนั้นจึงฉีดกลับเข้าไปยังบริเวณใต้ตา เพื่อเติมเต็มร่องลึก ลดความหมองคล้ำ และทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น
เทคนิคที่นิยมใช้คือ Micro Fat Grafting ที่เน้นการฉีดไขมันเป็นชั้นบาง ๆ อย่างแม่นยำ เพื่อให้ผลลัพธ์เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน และดูเป็นธรรมชาติ
ข้อดีของการฉีดไขมันใต้ตา
- ใช้ไขมันจากร่างกายตัวเอง ลดโอกาสเกิดอาการแพ้หรือภาวะต่อต้าน
- เติมเต็มร่องลึกและเบ้าตาให้ดูฟูขึ้น ใบหน้าดูสดใส ไม่เหนื่อยล้า
- ช่วยปรับผิวใต้ตาให้เรียบเนียน ลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย
- มี Growth Factor จากไขมัน ช่วยฟื้นฟูผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ มากกว่าการใช้สารเติมเต็ม (Filler)
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2-5 ปี หรือบางส่วนอาจติดถาวร
ข้อเสียและข้อควรระวัง
- ต้องผ่านขั้นตอนการดูดไขมันก่อน อาจมีรอยแผลเล็กจากบริเวณที่ดูด
- ไขมันบางส่วนอาจถูกดูดซึมหรือสลายไปภายใน 1-3 เดือนแรก
- หากฉีดโดยแพทย์ไม่มีความชำนาญ อาจเกิดเป็นก้อนหรือไม่เรียบเนียนได้
- มีระยะพักฟื้นหลังทำ เช่น อาการบวมบริเวณใต้ตา 3–7 วัน
- ไม่เหมาะกับคนที่มีไขมันในร่างกายน้อยมาก
ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดไขมันใต้ตา
- ผู้ที่มี ร่องลึกใต้ตาชัด หรือใต้ตาดูโหล
- ผู้ที่มี เบ้าตาลึก จากกรรมพันธุ์หรืออายุที่เพิ่มขึ้น
- ผู้ที่มี ความหมองคล้ำใต้ตา ที่ไม่หายด้วยครีมหรือการนอนพัก
- ผู้ที่ไม่ต้องการใช้ฟิลเลอร์ และต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ ที่อยู่ได้นานโดยไม่ต้องเติมบ่อย
ฉีดไขมันใต้ตาต่างจากฟิลเลอร์อย่างไร?
ปัจจัย | ฉีดไขมันใต้ตา | ฟิลเลอร์ใต้ตา |
---|---|---|
วัสดุที่ใช้ | ไขมันจากร่างกายตัวเอง | สารไฮยาลูโรนิกแอซิด (HA) |
ความเป็นธรรมชาติ | เป็นธรรมชาติมากที่สุด | เป็นธรรมชาติระดับปานกลางถึงมาก |
ความคงทน | 2–5 ปี หรือบางส่วนถาวร | 6–18 เดือน |
ความเสี่ยง | ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ | เสี่ยงไหลหรือเป็นก้อนถ้าฉีดผิดชั้น |
ความปลอดภัย | ไม่มีสารแปลกปลอมในร่างกาย | มีโอกาสแพ้เล็กน้อยในบางราย |
ขั้นตอนการฉีดไขมันใต้ตา
- ประเมินใบหน้า โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- ดูดไขมัน จากหน้าท้อง หรือต้นขา
- คัดแยกไขมันบริสุทธิ์ และสกัด Growth Factor
- ฉีดไขมัน เข้าบริเวณใต้ตาด้วยเทคนิค Micro Fat Grafting
- ดูแลหลังทำ เพื่อลดอาการบวม และช่วยให้ไขมันติดดีขึ้น
ผลลัพธ์หลังทำและการดูแลตัวเอง
- อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงใน 3–7 วัน
- ไขมันจะเริ่มเซ็ตตัวภายใน 1–3 เดือน
- หลีกเลี่ยงการ นวด กด หรือใส่แว่นแน่น ๆ ในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก
- รับประทานอาหารที่ดีต่อไขมัน เช่น ปลาแซลมอน อะโวคาโด ถั่ว
- พักผ่อนให้เพียงพอ และงดแอลกอฮอล์ในช่วงฟื้นตัว
ฉีดไขมันใต้ตาที่ไหนดี?
เลือกคลินิกที่มี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรม และมีประสบการณ์เฉพาะทางในงาน Fat Grafting รวมถึงรีวิวจากเคสจริงที่สามารถเห็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ การฉีดไขมันบริเวณใต้ตาเป็นงานละเอียด ควรเลือกคลินิกที่เชื่อถือได้ เพื่อผลลัพธ์ที่เรียบเนียนและปลอดภัยที่สุด
สรุป
“ฉีดไขมันใต้ตา” คือวิธีฟื้นฟูใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น โดยใช้ไขมันจากร่างกายตัวเองเติมเต็มใต้ตาที่ลึก คล้ำ หรือดูโทรม เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นาน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการใช้ฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มสังเคราะห์ หากทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมดูแลตนเองหลังทำอย่างถูกต้อง ก็สามารถคงผลลัพธ์ที่ดีได้นานหลายปี
ติดต่อเรา
- Facebook : Pmed Clinic พีเมด คลินิก
- LINE : PMED Clinic
- Youtube : PMED Clinic
- Instagram : PMED Clinic
- เว็บไซต์ : pmedclinic.com
- แผนที่ : PMED Clinic

PMED Clinic คลินิกศัลยกรรมครบวงจร บริการเติมไขมันหน้า เสริมจมูก แก้จมูกโดยแพทย์เฉพาะทาง เน้นความปลอดภัย ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมดูแลหลังทำครบทุกขั้นตอน



