เคล็ดลับในการเตรียมตัวก่อนเติมไขมันหน้า

หมอเข้าใจว่าหลายๆท่านที่สนใจการฉีดไขมันหน้าอาจมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับกระบวนการนี้ วันนี้หมอจะมาอธิบายเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนฉีดไขมันหน้าเพื่อให้ทุกท่านได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหลังทำหัตถการครับ 

การเตรียมตัวที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เซลล์ไขมันที่ฉีดเข้าไปสามารถติดทนนานขึ้น และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดอาการบวมช้ำ และระยะเวลาการพักฟื้นทำให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็ว การฉีดไขมันหน้ายังถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าโดยใช้ไขมันของตัวเองซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้จากสารเติมเต็มอื่น ๆ ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดไขมันหน้าควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเตรียมตัวให้ครบถ้วนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจและปลอดภัยที่สุดครับ

เติมไขมันหน้าคืออะไร มีกี่แบบ

การฉีดไขมันหน้า (Fat Grafting หรือ Fat Transfer) คือการเติมเต็มใบหน้าด้วยไขมันของตัวเองโดยไขมันจะถูกดูดออกจากส่วนอื่นของร่างกายเช่นหน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก จากนั้นนำมาผ่านกระบวนการคัดกรองก่อนฉีดกลับเข้าสู่ใบหน้า การฉีดไขมันช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบ อ่อนเยาว์ขึ้น และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากกว่าสารเติมเต็มชนิดอื่นเพราะใช้เซลล์ไขมันของตัวเองจึงลดโอกาสแพ้หรือเกิดปฏิกิริยาต่อต้านจากร่างกายครับ

โดยทั่วไป การฉีดไขมันหน้าสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่:

1. ฉีดไขมันหน้าแบบทั่วไป – เป็นการฉีดไขมันโดยตรงโดยไม่ผ่านกระบวนการพิเศษผลลัพธ์อาจมีการดูดซึมบางส่วนภายใน 3-6 เดือน
2. ฉีดไขมันหน้าแบบเติม Growth Factors หรือ PRP (Platelet-Rich Plasma) – ผสมไขมันกับ PRP จากเลือดของผู้รับบริการเพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่และทำให้ไขมันติดทนนานขึ้น

สนใจเติมไขมันหน้าเด็ก: Pmed Clinic เติมไขมันหน้า

เติมไขมันหน้าช่วยอะไร เหมาะกับใคร

การฉีดไขมันหน้ามีข้อดีหลายประการที่ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และมีมิติยิ่งขึ้นครับประโยชน์หลักของการฉีดไขมันหน้ามีดังนี้:

• เติมเต็มใบหน้าที่ตอบหรือขาดวอลลุ่ม เช่น ขมับตอบ แก้มตอบ หรือร่องแก้มลึก
• ช่วยลดริ้วรอยและร่องลึก โดยเฉพาะบริเวณใต้ตา หน้าผาก และร่องน้ำหมาก
• ฟื้นฟูคุณภาพผิว ไขมันที่ฉีดเข้าไปยังมี Growth Factors ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งขึ้น
• ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เพราะเป็นเซลล์ไขมันของตัวเองจึงไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านจากร่างกาย
• ช่วยปรับสมดุลของใบหน้า โดยทำให้โครงหน้าดูละมุนและสมส่วนขึ้น

การฉีดไขมันหน้าจะเหมาะกับบุคคลที่ต้องการเพิ่มความสดใสให้ใบหน้าโดยไม่ต้องพึ่งสารเติมเต็มสังเคราะห์ ผู้ที่เหมาะกับการฉีดไขมันหน้า ได้แก่:

1. ผู้ที่มีใบหน้าตอบหรือขาดวอลลุ่ม และต้องการให้ใบหน้าดูเต็มและมีมิติขึ้น
2. ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยและร่องลึก โดยเฉพาะบริเวณร่องแก้ม ขมับ และใต้ตา
3. ผู้ที่มีผิวแห้งหรือขาดความชุ่มชื้น และต้องการให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
4. ผู้ที่ต้องการใช้ไขมันของตัวเองแทนสารเติมเต็มอื่น ๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพ้
5. ผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้าให้สมดุลขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการเพิ่มความโหนกนูนบริเวณแก้มหรือคาง

อย่างไรก็ตามผู้ที่มีปัญหาผิวหนังบางประเภทหรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่อาจมีผลกระทบต่อการปลูกถ่ายไขมัน ควรเข้ารับคำปรึกษาจากคุณหมอเพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนเข้ารับการฉีดไขมันหน้าครับ

ข้อดีของการเติมไขมันหน้า

การฉีดไขมันหน้าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติเนื่องจากเป็นการใช้ไขมันของตัวเอง จึงลดโอกาสเกิดอาการแพ้หรือผลข้างเคียงจากสารสังเคราะห์ การฉีดไขมันช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบลดริ้วรอย และปรับสมดุลของใบหน้าได้โดยไม่ต้องใช้ฟิลเลอร์ อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งให้เข้ากับโครงหน้าของแต่ละบุคคลได้อย่างเหมาะสม

อีกข้อดีหนึ่งคือไขมันที่ฉีดเข้าไปมีเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) ซึ่งช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเก็บไขมันส่วนเกินจากบริเวณที่ไม่ต้องการเช่นหน้าท้องหรือต้นขา แล้วนำมาใช้เพื่อเติมเต็มใบหน้าได้จึงถือเป็นกระบวนการที่ช่วยปรับรูปร่างและเพิ่มความสวยงามได้พร้อมกัน

ฉีดไขมันอันตรายไหม?

โดยทั่วไปแล้วการฉีดไขมันหน้าเป็นหัตถการที่ปลอดภัยหากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ อย่างไรก็ตามความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นการติดเชื้อ อาการบวมช้ำ หรือการที่ไขมันบางส่วนไม่ติดและถูกดูดซึมไป ในบางกรณีอาจต้องมีการฉีดซ้ำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ที่สุด ดังนั้นการดูแลตัวเองหลังฉีดไขมันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่น

นอกจากนี้ตำแหน่งที่ฉีดไขมันต้องแม่นยำ และทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพราะหากฉีดผิดชั้นผิวหรือฉีดในปริมาณที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่นก้อนไขมันเป็นก้อนหรือการเกิดพังผืดได้ ดังนั้น ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและมีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดไขมันหน้าเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ

ขั้นตอนการฉีดไขมัน

ขั้นตอนที่ 1 วิเคราะห์ใบหน้า

หมออยากให้ทุกท่านเข้าใจก่อนว่าการฉีดไขมันหน้าไม่ใช่แค่การเติมให้เต็มแล้วจะออกมาดูดีครับ ศัลยแพทย์ต้องมีความรู้เรื่องมิติของใบหน้าว่ามุมไหน เหลี่ยมไหนที่ต้องเติมแล้วจะออกมาสวยเป็นธรรมชาติ หมอเองเคยผ่านคอร์สเรียนการปั้น และวาดภาพจากเพาะช่างมาแล้วซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรเฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้าของโรงพยาบาลจุฬาฯ ศิลปะเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับศัลยแพทย์ เพราะใบหน้าของแต่ละคนมีมิติที่แตกต่างกัน

กระดูกที่เป็นโครงสร้างแข็งของใบหน้าจะเป็นกรอบหลักส่วนเนื้อเยื่อไขมันเป็นมิติที่อ่อนนุ่มเมื่ออายุมากขึ้นไขมันจะลดลงทำให้ขมับตอบ แก้มตอบ ใบหน้าดูแข็งและโทรมขึ้น หมอจึงต้องวิเคราะห์และออกแบบการเติมไขมันให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลไม่สามารถใช้เทคนิคเดียวกันกับทุกคนได้เพราะต้องคำนึงถึงโครงสร้างใบหน้าเดิมและความต้องการของคนไข้ด้วยครับ

ขั้นตอนที่ 2 การดูดไขมัน

ในขั้นตอนนี้หมอจะทำการดูดไขมันจากร่างกายของเราเองเพื่อใช้ฉีดกลับเข้าไปที่ใบหน้า ขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่นานครับประมาณ 30 นาทีเท่านั้นปริมาณไขมันที่ใช้โดยตามปริมาณที่แพทย์คำนวนไว้ตามเหมาะสม หมอจะคำนวณไว้ล่วงหน้าว่าต้องใช้เท่าไหร่และควรดูดจากตำแหน่งไหน โดยปกติแล้วจะเลือกดูดจากต้นขาก่อนเพราะเนื้อไขมันบริเวณนี้มีคุณภาพดี และหากไม่พอจึงจะดูดจากหน้าท้องเพิ่มเติมครับ

สำหรับการดูดไขมันคนไข้ส่วนใหญ่ประมาณ 85-90% จะเลือกใช้วิธีฉีดยาชาเพราะไม่ต้องนอนโรงพยาบาลและสามารถพูดคุยกับหมอได้ตลอดกระบวนการ ระหว่างทำหลายคนบอกว่าคุณหมอมือเบามากทำแล้วไม่รู้สึกเจ็บเลยครับ

ขั้นตอนที่ 3 การคัดแยกไขมัน

หลังจากดูดไขมันออกมาแล้วไขมันจะต้องถูกคัดแยกเพื่อให้ได้เซลล์ไขมันที่สมบูรณ์ที่สุด หมอใช้เทคนิคพิเศษที่เรียกว่า Growth Factors ซึ่งเป็นเทคนิคที่หมอเป็นผู้บุกเบิกนำมาใช้ในประเทศไทย Growth Factors จะช่วยให้เซลล์ไขมันแข็งแรงและติดทนนานขึ้น หมอจะสกัด Growth Factors จากเลือดของคนไข้เองแล้วนำมาผสมกับไขมันก่อนฉีดกลับเข้าสู่ใบหน้า

Growth Factors ถือเป็นปุ๋ยที่ช่วยบำรุงไขมันให้เติบโตดีขึ้นทำให้ไขมันติดทนสูงถึง 80-90% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงมากเมื่อเทียบกับการฉีดไขมันแบบทั่วไป หมอให้ความสำคัญกับขั้นตอนนี้มากเพราะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีและติดทนนานครับ

ขั้นตอนที่ 4 การฉีดไขมัน

การฉีดไขมันเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความชำนาญอย่างมากเพราะหมอต้องคำนวณให้พอดี ไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป หลักการคือ “ฉีดพอดีหรือเกินได้นิดหน่อย” แต่ “ห้ามฉีดเกินมากๆ” เด็ดขาดเพราะถ้าฉีดเยอะเกินไปใบหน้าจะบวมจนผิดรูปและหากต้องการเอาไขมันส่วนเกินออกทีหลังก็ทำได้ยากมากครับ เนื่องจากไขมันที่ติดแล้วจะติดแน่นโดยเฉพาะในบริเวณที่มีกล้ามเนื้อและพังผืดเยอะ

ศัลยแพทย์ต้องคำนวณเผื่อเวลาที่ไขมันจะยุบตัวในช่วงแรกด้วยและต้องฉีดกระจายให้เป็นธรรมชาติที่สุด การฉีดไขมันไม่ใช่แค่เติมให้เต็มแต่ต้องทำให้เข้ากับโครงสร้างใบหน้าเดิมของแต่ละคนอย่างเหมาะสมหมอจึงต้องใช้ความละเอียดและความชำนาญสูงมากครับ

นี่คือกระบวนการทั้งหมดของการฉีดไขมันหน้าที่หมออยากให้ทุกท่านเข้าใจครับ หมอหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกท่านเห็นภาพและเตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถเข้ามาปรึกษาหมอได้ที่คลินิกนะครับ หมอและทีมงานยินดีให้คำแนะนำเพื่อให้ทุกท่านได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ

การเตรียมตัวก่อนฉีดไขมันหน้า?

การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปติดทนมากขึ้นลดอาการบวมช้ำและช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างรวดเร็วครับ โดยทั่วไปแล้วการฉีดไขมันหน้าจะต้องมีขั้นตอนการดูดไขมันจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพกแล้วนำมาผ่านกระบวนการคัดกรองก่อนฉีดกลับเข้าสู่ใบหน้า ดังนั้น การเตรียมตัวล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญมากครับ

1. ปรึกษาคุณหมอและศึกษาข้อมูลให้ละเอียด

ก่อนตัดสินใจฉีดไขมันหน้าควรเข้ารับการปรึกษากับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินว่าเราเหมาะกับหัตถการนี้หรือไม่ คุณหมอจะช่วยแนะนำแหล่งไขมันที่เหมาะสมและบอกถึงข้อดี ข้อจำกัด รวมถึงผลลัพธ์ที่สามารถคาดหวังได้ครับ

นอกจากนี้ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคที่ใช้ เช่น การเติมไขมันด้วยเทคนิค Growth Factors หรือวิธีที่ช่วยให้ไขมันติดทนนานขึ้นจะทำให้เรามีความเข้าใจและสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจครับ

2. ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

ก่อนเข้ารับการฉีดไขมันควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงที่สุดเพราะร่างกายที่สมบูรณ์จะช่วยให้เซลล์ไขมันอยู่รอดได้ดีขึ้นครับ โดยสามารถทำตามคำแนะนำดังนี้:

• พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
• ดื่มน้ำให้มากขึ้น วันละ 2-3 ลิตร เพื่อให้ร่างกายชุ่มชื้นและช่วยให้ไขมันมีคุณภาพดี
• หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ เพราะจะมีผลต่อการฟื้นตัวของร่างกายและการไหลเวียนของเลือด

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นโปรตีนและไขมันดี เช่น ปลา ถั่ว และอะโวคาโด เพื่อช่วยให้เซลล์ไขมันแข็งแรงขึ้นครับ

3. หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด

ก่อนฉีดไขมันควรงดใช้ยากลุ่มที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน วิตามินอี และอาหารเสริมบางชนิดเช่น โสม กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการครับ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเลือดออกง่ายและลดอาการบวมช้ำหลังทำครับ

4. เตรียมพื้นที่ไขมันที่ต้องดูดออก

เพราะการฉีดไขมันหน้าต้องอาศัยไขมันจากร่างกายของเราเองคุณหมอจะประเมินและเลือกจุดที่เหมาะสมในการดูดไขมันเช่นหน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก ครับ ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือทำทรีตเมนต์ในบริเวณนี้ล่วงหน้า 1-2 สัปดาห์และดูแลให้ผิวสะอาดและชุ่มชื้นอยู่เสมอ

5. เตรียมตัวสำหรับช่วงพักฟื้น

หลังฉีดไขมันอาจมีอาการบวมเล็กน้อยหรือรอยช้ำในบริเวณที่ฉีดและดูดไขมัน ควรเตรียมตัวสำหรับการพักฟื้นดังนี้:

• จัดเตรียมหมอนรองคอ เพื่อช่วยลดอาการบวมขณะนอนหลับ
• วางแผนวันหยุดงาน อย่างน้อย 5-7 วัน เพื่อให้มีเวลาพักผ่อนเต็มที่
• หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก เช่น ออกกำลังกายหรือยกของหนักประมาณ 2-4 สัปดาห์

เตรียมยาและของใช้ที่จำเป็น เช่น ยาลดบวม ยาฆ่าเชื้อ ครีมบำรุง และน้ำแข็งประคบเย็น

6. ทำความเข้าใจผลลัพธ์

การฉีดไขมันหน้าเป็นการเติมเต็มใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ไขมันบางส่วนอาจถูกดูดซึมกลับไปในช่วงแรก ซึ่งเป็นเรื่องปกติครับ ดังนั้นจึงอาจต้องมีการฉีดเติมในบางจุดหลังจาก 3-6 เดือนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ฉีดไขมันจะเริ่มเห็นผลในกี่วัน และผลจะอยู่ได้นานเท่าไหร่?

วันแรก – 3 วันแรก ในช่วงแรกหลังจากฉีดไขมันคนไข้จะมีอาการบวมและอาจมีรอยช้ำเล็กน้อย ซึ่งเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายต่อการฉีดไขมัน โดยเฉพาะบริเวณที่ฉีดเข้าไปและบริเวณที่ดูดไขมันมา คนไข้บางรายอาจรู้สึกตึงที่ใบหน้าและอาจมีอาการบวมมากกว่าปกติในช่วง 48 ชั่วโมงแรก หมอแนะนำให้ประคบเย็นและนอนยกศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวมครับ

1 สัปดาห์หลังฉีดไขมัน อาการบวมจะเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัดและเริ่มเห็นรูปร่างของใบหน้าที่เริ่มเข้าที่มากขึ้น บางจุดอาจยังดูบวมอยู่แต่โดยรวมแล้วใบหน้าจะเริ่มดูเป็นธรรมชาติขึ้น อาการช้ำที่เกิดขึ้นจะค่อยๆจางลงหมอแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆและหลีกเลี่ยงการกดหรือสัมผัสใบหน้าแรงๆในช่วงนี้ครับ

2-4 สัปดาห์หลังฉีดไขมัน ในช่วงนี้ใบหน้าจะเริ่มเข้าที่มากขึ้นโดยเฉพาะตั้งแต่สัปดาห์ที่ 3 เป็นต้นไป ไขมันที่ฉีดไปจะค่อยๆปรับตัวและเริ่มอยู่ตัว อย่างไรก็ตามไขมันบางส่วนจะถูกดูดซึมกลับไปตามธรรมชาติประมาณ 20-30% ซึ่งเป็นเรื่องปกติหมอจึงต้องคำนวณการฉีดเผื่อเอาไว้ตั้งแต่ต้นครับ

3-6 เดือนหลังฉีดไขมัน หลังจาก 3 เดือนขึ้นไป ผลลัพธ์ของการฉีดไขมันจะค่อนข้างคงที่ไขมันที่เหลืออยู่จะเป็นไขมันที่ติดถาวรและใบหน้าจะดูเป็นธรรมชาติที่สุด นอกจากนี้ไขมันที่ติดแล้วจะช่วยฟื้นฟูผิวและทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นด้วย

ระยะเวลาที่ไขมันอยู่ได้นานแค่ไหน? ผลลัพธ์ของการฉีดไขมันสามารถอยู่ได้นานหลายปีหากดูแลตัวเองดี โดยปกติแล้วไขมันที่ติดจะอยู่ถาวรในร่างกายแต่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคนด้วย หากน้ำหนักลดลงมาก ไขมันที่ฉีดเข้าไปอาจลดลงตามไปด้วยหมอแนะนำให้รักษาน้ำหนักให้อยู่ในระดับคงที่และดูแลสุขภาพผิวให้ดีเพื่อให้ผลลัพธ์ของการฉีดไขมันคงอยู่นานที่สุดครับ

ฉีดไขมันกับฟิลเลอร์แตกต่างกันอย่างไร?

หลายท่านอาจสงสัยว่าการฉีดไขมันกับฟิลเลอร์มีความแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกวิธีไหนให้เหมาะกับตัวเอง หมอขออธิบายว่าฉีดไขมันเป็นการเติมเต็มใบหน้าด้วยไขมันของตัวเองที่ถูกดูดออกมาจากร่างกาย ส่วนฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มสังเคราะห์ที่ใช้ฉีดเข้าไปเพื่อปรับแต่งรูปหน้าและลดริ้วรอย 

ทั้งสองวิธีนี้ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันและเหมาะกับแต่ละบุคคลครับ การฉีดไขมันมักจะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า และอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ ในขณะที่ฟิลเลอร์ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และแม่นยำกว่าเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับจุดเล็ก ๆ อย่างเฉพาะเจาะจง

ข้อแตกต่างหลัก ๆ ระหว่างการฉีดไขมันและฟิลเลอร์ อยู่ที่ระยะเวลาของผลลัพธ์ และกระบวนการทำครับ การฉีดไขมันอาจต้องผ่านขั้นตอนการดูดไขมันออกจากร่างกายนำมาคัดแยก และฉีดกลับเข้าสู่ใบหน้าซึ่งต้องใช้เวลาฟื้นตัวบ้าง 

ขณะที่ฟิลเลอร์สามารถฉีดแล้วเห็นผลได้ทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้นมาก อย่างไรก็ตามไขมันที่ฉีดเข้าไปสามารถติดถาวรได้สูงสุดถึง 80-90% หากดูแลตัวเองดี ในขณะที่ฟิลเลอร์จะสูญเสียสภาพของเหลวและสลายไปบางส่วนตามธรรมชาติภายใน 6-18 เดือนขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ ดังนั้นหากต้องการผลลัพธ์ระยะยาว และดูเป็นธรรมชาติการฉีดไขมันอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าครับ

วิธีการเลือกคลินิก

การเลือกคลินิกที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าการฉีดไขมันของท่านจะปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หมอแนะนำให้พิจารณาปัจจัยหลัก ๆ ดังต่อไปนี้ครับ

1. ประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ – ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งหรือด้านการฉีดไขมันโดยตรงควรตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติของแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
2. มีเคสรีวิว ผลลัพธ์ก่อน-หลัง – การดูภาพรีวิวเคสจริงจะช่วยให้เราประเมินฝีมือของแพทย์และคาดการณ์ผลลัพธ์ที่อาจได้รับ
3. คลินิกสะอาด ปลอดภัย และมีมาตรฐาน – ควรเลือกคลินิกที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายและมีมาตรฐานด้านความสะอาดและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย
4. เครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย – เทคโนโลยีใหม่ ๆ สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฉีดไขมันให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ควรตรวจสอบว่าคลินิกใช้เครื่องมือที่ได้รับการรับรอง
5. มีการออกแบบการรักษาที่เฉพาะสำหรับแต่ละบุคคล – แพทย์ที่ดีจะต้องมีการวิเคราะห์ใบหน้าและออกแบบการฉีดไขมันให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ไม่ใช่ใช้เทคนิคเดียวกันกับทุกคน เพราะใบหน้าของแต่ละคนมีโครงสร้างที่แตกต่างกันครับ

ที่ Pmed Clinic คุณหมอต้นเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งที่มีประสบการณ์เฉพาะทางด้านการเติมไขมันหน้า หมอเข้าใจโครงสร้างใบหน้าและมีเทคนิคการฉีดที่ช่วยให้ไขมันติดดี กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ หมอใช้เทคนิค Reju Fat ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของ Pmed Clinic ที่ช่วยให้ไขมันติดทนนานขึ้นและช่วยฟื้นฟูผิวพรรณไปพร้อมกัน

นอกจากนี้ หมอยังให้ความสำคัญกับการออกแบบใบหน้าให้เข้ากับลักษณะเฉพาะของแต่ละคน โดยจะวิเคราะห์องค์ประกอบของใบหน้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมดุล ดูเป็นธรรมชาติ และเหมาะสมกับโครงสร้างของแต่ละคนครับ หากกำลังมองหาคลินิกที่ฉีดไขมันอยู่ สามารถมาปรึกษากับคุณหมอที่คลินิก หรือจองคิวมาทาง Facebook ได้เลยครับ หมอยินดีให้คำปรึกษาทุกท่านครับ

Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดไขมันหน้า

Q: การเติมไขมันหน้า อยู่ได้ถาวรจริงหรือไม่?
A: การเติมไขมันหน้าสามารถอยู่ได้นานและบางส่วนอาจอยู่ได้ถาวรครับ อย่างไรก็ตามในช่วง 3-6 เดือนแรก ไขมันที่ฉีดเข้าไปบางส่วนจะถูกดูดซึมโดยร่างกายซึ่งเป็นกระบวนการปกติ โดยทั่วไปไขมันที่เหลืออยู่หลังจากช่วงเวลานี้จะเป็นไขมันที่ติดถาวรหากดูแลสุขภาพดีและรักษาน้ำหนักให้คงที่ไขมันจะสามารถอยู่ได้นานหลายปีครับ

Q: ฉีดไขมันหน้าเจ็บไหม?
A: ในระหว่างทำหัตถการคนไข้จะได้รับยาชาหรือยานอนหลับบางประเภททำให้ไม่รู้สึกเจ็บมากครับ อาการที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดคือความตึงหรือบวมบริเวณที่ฉีดไขมันและบริเวณที่ดูดไขมันซึ่งอาการเหล่านี้มักจะลดลงภายใน 3-7 วันและสามารถใช้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ครับ

Q: ฉีดที่ไหนก็ได้ผลลัพธ์เหมือนกันไหม?
A: ไม่ครับผลลัพธ์ของการฉีดไขมันขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์ เทคนิคที่ใช้ และคุณภาพของไขมันที่ถูกนำมาฉีด แพทย์ที่มีประสบการณ์สูงจะสามารถประเมินและออกแบบการฉีดให้เหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคลได้ นอกจากนี้อุปกรณ์ที่ทันสมัยและเทคนิคเฉพาะทางเช่นการใช้ Growth Factors สามารถช่วยเพิ่มอัตราการติดของไขมันได้อีกด้วยครับ

Q: หลังฉีดหน้าจะบวมกี่วัน?
A: อาการบวมหลังฉีดไขมันมักจะชัดเจนในช่วง 2-3 วันแรก และจะค่อยๆลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์ครับ อาการบวมขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่ฉีดและปัจจัยส่วนบุคคลของแต่ละคน หมอแนะนำให้ประคบเย็นในช่วง 48 ชั่วโมงแรกและนอนยกศีรษะสูงเพื่อช่วยลดอาการบวมให้น้อยลงครับ

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปลูกผม: 42G Clinic การปลูกผม