เติมไขมันหน้า

Fat Grafting

      คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวหน้าด้วยไขมันของคุณเอง ด้วยเทคนิค Growth Factors พัฒนาโดยนายแพทย์ปิยพล พัฒนครู ศัลยแพทย์ใจดีที่ทำเคสเติมไขมันมากที่สุดในสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย ประสบการณ์นานกว่า 10 ปี
      ที่ Pmed Clinic การเติมไขมันไม่ใช่แค่การ “ดูด” แล้ว “เติม” “ฉีด” แล้ว“จบ”เท่านั้นแต่หมายถึงการคิดคำนวณอย่างแม่นยำ และรอบคอบเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเฉพาะบุคคล การฉีดไขมันของ Pmed Clinic หมายถึงการใช้เครื่องมือที่ดีที่สุด เทคนิคที่การันตีผลลัพธ์ได้ใกล้เคียงที่สุด โดยศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญด้านการฉีดไขมันโดยเฉพาะ เพราะสำหรับเรา
      การฉีดไขมันเป็นเทคนิคการสร้างความอ่อนเยาว์ที่สร้างความพึงพอใจให้ผู้รับบริการได้มากที่สุด ณ ปัจจุบัน ทว่าต้องทำด้วยมือของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะการเติมไขมันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ต้องอาศัยประสบการณ์นานปีในการพัฒนาฝีมือ และอย่าเพิ่งตัดสินใจสมัครคอร์สเติมไขมันกับใครที่ไหนก่อนที่คุณจะอ่านข้อมูลต่อไปนี้จนจบ

Scroll
down

ทำความรู้จัก

FAT GRAFTING

การเติมไขมันคือ

      การฉีดเติมเต็มใบหน้าด้วยไขมันของตัวเองเป็นการย้ายตำแหน่งไขมันจากบริเวณที่เราไม่ต้องการเช่น ต้นขา หน้าท้อง แขน หลัง ฯลฯ เพื่อมาเติมเต็มส่วนที่บกพร่อง เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา รอบดวงตา หน้าผากแบน ขมับตอบ โหนกแก้มสูง ฯลฯ ซึ่งเป็นการฉีดไขมันเป็นการเติมเต็มใบหน้าที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เพราะเป็นไขมันของตนเองที่มาจากธรรมชาติ ไม่ใช่สารสังเคราะห์ ลดโอกาสแพ้และลดโอการที่จะเกิดการสะสมของเหลวในบริเวณที่เติมเต็ม

ใครบ้างที่เติมไขมันได้

      ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า สามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 20ปี – 75ปี เมื่ออายุมากขึ้นความแข็งแรงระหว่างพังผืดกับชั้นไขมันที่ยึดใบหน้าจะลดลงในบางบริเวณทำให้เกิดริ้วรอย เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำตา หน้าผากย่นหรือบางคนแก้มตอบจากการที่ไขมันบริเวณแก้มลดลงทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งจากประสบการณ์การทำเคสฉีดไขมันของคุณหมอปิยพลพบว่าผู้ชายนั้นไขมันจะติดดีกว่าผู้หญิงด้วยซ้ำ และทำได้จนถึงอายุ 60 ปีขึ้นไป เพราะเคยมีคนไข้อายุ 60ปีมาเติมไขมันและพบว่าไขมันติดดีไม่แพ้สาวๆเหมือนกัน

เทคนิคที่ใช้

      Growth Factors เป็นเทคนิคที่คุณหมอปิยพลนำมาใช้เป็นคนแรกๆ ในประเทศไทย เทคนิคนี้ เป็นเทคนิคการฉีดไขมันที่ทันสมัยที่สุด ต่างจากแบบเดิมคือเมื่อดูดไขมันแล้วจะนำมาปั่นและคัดแยกไขมัน และนำมาผสมกับ Growth Factors ได้เป็นไขมันที่มีความคงตัวและติดดีกว่าเทคนิคเดิมถึง 3 เท่าเทียบจากเทคนิคแรกเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว เมื่อฉีดไขมันแล้ว ไขมันจะติดประมาณ 30% เท่านั้นเพราะไขมันบอบบางและสูญสลายง่ายเมื่อมีการย้ายตำแหน่ง แต่ด้วยเทคนิค Growth Factors ไขมันติดได้ถึง 80-90% โดยที่ใช้ปริมาณน้อยกว่า

เปรียบเทียบความแตกต่าง
ฟิลเลอร์ VS เติมไขมัน

บริเวณไหนเหมาะกับ

การเติมไขมัน

บริเวณต่างๆที่นิยมและสามารถนำไขมันดีออกมาใช้ในการเติมไขมันใบหน้า ได้แก่ ต้นขาใน ต้นขานอก หน้าท้อง สะโพก

บริเวณหน้าผาก

ฉีดไขมันหน้าผาก : เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากตัด ทำให้ใบหน้าดูแข็งสามารถฉีดไขมันหน้าผากเพื่อปรับรูปหน้าให้หน้าผากโหนกนูนมากขึ้น เพิ่มมิติให้ใบหน้าทำให้ curve ของใบหน้าชัดขึ้น ปรับโหงวเฮ้งให้ดีขึ้นรับทรัพทย์ นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึกริ้วรอยถาวรบริเวณหน้าผากได้อีกด้วย

บริเวณขมับ​

ฉีดไขมันขมับ : เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาขมับบุ๋มขมับยุบ ขมับตอบ ทำให้โหนกแก้มดูเด่นรูปหน้าไม่หวานการฉีดไขมันขมับจะช่วยปรับรูปหน้าให้ smooth มากขึ้นเมื่อขมับเต็มจะทำให้ใบหน้าหวานขึ้นลดความเด่นของโหนกแก้มได้

บริเวณใต้ตา​

ฉีดไขมันใต้ตา : เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาร่องใต้ตาลึกใต้ตาคล้ำ มีริ้วรอยเล็กๆใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูโทรมและมีอายุแต่งหน้ายาก แป้งตกร่องการฉีดไขมันใต้ตาจะช่วยทำให้ร่องใต้ตาตื้นขึ้น เต็มขึ้นและช่วยปรับสีผิวใต้ตาที่คล้ำให้ดูดีขึ้นหลังฉีดไขมันใต้ตาใบหน้าจะดูสดใส อ่อนเยาว์

บริเวณร่องแก้ม​

ฉีดไขมันร่องแก้ม : เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาร่องลึกตามแนวปีกจมูกถึงมุมปาก มักจะพบในคนที่มีอายุมาก แสดงสีหน้าบ่อยทำให้เกิดเป็นร่องแก้มแบบถาวร (บางคนเรียกว่าร่องน้ำหมาก) ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ แก้ไขได้ด้วยการฉีดไขมันเติมเต็มร่องแก้ม ให้ดูเด็กอย่างเป็นธรรมชาติ 

บริเวณแก้ม​

ฉีดไขมันแก้มตอบ : ปัญหาแก้มตอบ เป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและดูโทรม การฉีดไขมันตรงบริเวณที่มีปัญหาแก้มตอบจะช่วยปรับรูปหน้าให้ smooth ขึ้น อย่างเป็นธรรมชาติใบหน้าดูเด็กและอิ่มฟูมากขึ้น 

บริเวณเปลือกตา​

ฉีดไขมันเปลือกตา : เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเบ้าตาที่ลึกจนทำให้ดูโทรมหรือแก่ก็สามารถเติมเต็มให้ดูเปลือกตาสดใสหน้าดูเด็กลงได้

4

ขั้นตอน

เติมไขมันที่ Pmed Clinic

ขั้นตอนที่ 1 วิเคราะห์ใบหน้า

คุณหมอเล่าว่า ศัลยแพทย์ต้องมีความรู้เกี่ยวกับมิติของใบหน้ารู้ว่าใบหน้าแต่ละคนมีเหลี่ยมไหนมุมไหนที่เติมไขมันแล้วจะดูสวยงามแบบพอดีจริงๆ ตัวคุณหมอเองนั้นเคยผ่านคอร์สเรียนการปั้นและการวาดภาพจากเพาะช่างมาแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนเฉพาะทางในสาขาศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้า โรงพยาบาลจุฬาฯ ซึ่งบรรจุวิชานี้ไว้ในหลักสูตรเพื่อให้ศัลยแพทย์เข้าใจความงามในมิติของศิลปะด้วย คุณหมอเล่าว่ากระดูกที่เป็นกรอบหน้าคือมิติที่แข็ง และส่วนที่นิ่มที่มีไขมันคือมิติที่อ่อน คนเราเมื่ออายุมากขึ้นจะมีไขมันน้อยลงทำให้แก้มตอบ ขมับตอบ ซึ่งทำให้ใบหน้าดูแข็ง ก็อาจแก้โดยฉีดไขมันที่แก้มและขมับให้เต็มขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้รับบริการและความเป็นไปได้ตามคำวินิจฉัยของคุณหมอไม่สามารถใช้วิธีเดียวในการแก้ปัญหาให้คนทุกคนได้

ขั้นตอนที่ 2 การดูดไขมัน

ขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที ใช้ไขมันประมาณ 100-200 ซีซี โดยคุณหมอจะคำนวณไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะดูดเท่าไหร่จากอวัยวะส่วนไหน ซึ่งโดยมากจะดูดจากต้นขาก่อนถ้าไม่พอจึงดูดที่หน้าท้อง ส่วนใหญ่จะจบที่หน้าท้อง และคนไข้ประมาณ 85-90% เลือกวิธีฉีดยาชาและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคุณหมอมือเบามาก ทำไม่เจ็บ ระหว่างทำสามารถพูดคุยกับคุณหมอได้ตามปกติ

ขั้นตอนที่ 3 การคัดแยกไขมัน

ใช้เทคนิค Growth Factors ซึ่งคุณหมอปิยพลเป็นผู้บุกเบิกนำเทคนิคนี้มาใช้ในประเทศไทย คุณหมอใช้เทคนิคพิเศษในการคัดแยกไขมัน และใช้อุปกรณ์ที่มีความแม่นยำสูงมาสกัด Growth Factors จากเลือดแล้วนำมาผสมกับไขมัน คุณหมอให้ความสำคัญกับ Growth Factors มากเพราะโดยตัวมันเองเป็นอาหารเลี้ยงไขมันอยู่แล้ว มันจะเป็นปุ๋ยให้กับไขมัน และทำให้เมื่อฉีดไขมันไปแล้ว ไขมันจะติดดีถึง 80-90%

ขั้นตอนที่ 4 การฉีดไขมัน

ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยความชำนาญว่าแต่ละตำแหน่งควรฉีดเท่าไหร่ ซึ่งต้องคำนวณเผื่อตอนไขมันยุบด้วย โดยหลักแล้ว ให้ “ฉีดพอดีหรือเกินได้นิดหน่อย” และ “ห้ามฉีดเกินมากๆ” เด็ดขาด เพราะจะทำให้หน้าบวม หน้าเปลี่ยนเป็นคนละคน และการจะเอาไขมันส่วนที่เกินออกนั้นเป็นเรื่องยากมากเพราะไขมันที่ใบหน้าถ้าติดแล้วจะติดดี ไม่เหมือนไขมันบริเวณอื่น ใบหน้าเป็นส่วนที่มีกล้ามเนื้อและพังผืดเยอะ ขูดไขมันออกยากและเกิดการบวมช้ำง่าย แพทย์จึงต้องระมัดระวังในการฉีดมากและต้องอาศัยความเชี่ยวชาญอย่างสูง

นพ.ปิยพล พัฒนครู

ผู้ก่อตั้ง Pmed Clinic

นพ.ปิยพล พัฒนครู

ผู้ก่อตั้ง Pmed Clinic

Doctor’s Message

          การฉีดไขมันหน้าเด็ก ควรทำคู่กับ Botox สารทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตชั่วคราว โดยมากผมจะฉีดครั้งเดียวให้จบเลย แต่ก็มีบางบริเวณที่ไม่เอื้อต่อการฉีดไขมัน เช่น หน้าผาก เปรียบเหมือนเวลาปลูกต้นไม้ที่ดินอื่น 100 ต้น อาจจะขึ้น 80 ต้น แต่ถ้าปลูกตรงหน้าผากจะขึ้นแค่ 60 ต้น เพราะฉะนั้นต้องมาดูกันอีกทีว่าควรจะฉีดซ้ำหรือไม่ และโดยมากการฉีดไขมันบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวเยอะๆ เช่น หน้าผากหรือแก้ม ก็จะมีโอกาสที่จะเกิดร่องไขมันเพราะการขยับเป็นการรบกวนต้นกล้าไขมันที่เราเพิ่งปลูเข้าไป มันยังเป็นต้นอ่อนถ้าเราไปรบกวนมันก็อาจจะไม่เข้าที่ ผมก็จะแนะนำให้ฉีด Botox ที่เป็นสารทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตชั่วคราวไปด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

          การเติมไขมันหรือการฉีดไขมันก็เหมือนการปลูกต้นไม้ “ให้เราจินตนาการว่าถ้าเราจะปลูกต้นไม้ต้องอาศัยอะไรบ้าง เช่น ต้นกล้า ดิน ปุ๋ย คนปลูกต้นไม้ เป็นต้น ต้นกล้าก็คือไขมันที่เราฉีดไขมันลงไปในชั้นใต้ผิวหนังGrowthFactorsคือปุ๋ยที่เราที่พัฒนาเทคนิคมาเกือบ10ปีจนได้สูตรปุ๋ยที่ดีที่สุดดินคือร่างกายของผู้มารับบริการ คุณอายุเท่าไร เพศอะไร พักผ่อนเพียงพอไหม สูบบุหรี่หรือเปล่า ดื่มหรือเปล่า มีโรคประจำตัวไหม ฯลฯ ส่วนนี้เราแก้ไขไม่ได้แต่เราจะทำให้ดีที่สุด และสุดท้ายคือคนปลูก ซึ่งต้องมีเทคนิคที่ดี มีประสบการณ์สูง เพราะการฉีดไขมันแต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดซับซ้อนแต่ไม่ยากเพราะคำนวณล่วงหน้าได้หมด ถ้าคุณมีประสบการณ์และเอาใจใส่กับมันมากพอ”

ทำไมต้องเติมไขมันกับหมอต้น ปิยพล ที่ Pmed Clinic

   การฉีดไขมันไม่เพียงแค่ช่วยเติมเต็มใบหน้าให้ดูเด็กลงแต่ยังช่วยปรับสมดุลรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกับ Growth Factor ที่ช่วยฟื้นฟูผิวหน้า ทำให้ปัญหาผิว เช่น ฝ้าหนา จุดด่างดำ หรือริ้วรอย ลดเลือนอย่างชัดเจน

    การฉีดไขมันเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์เพราะไม่เพียงแค่ช่วยเติมเต็มในจุดที่ขาดหาย แต่ยังช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ นี่คือเหตุผลที่หลายคนยืนยันว่า “ฉีดไขมันคุ้มค่ากว่าฉีดฟิลเลอร์”

    การฉีดไขมันเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาการปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติและยาวนานด้วยผลลัพธ์ที่ติดทนดีถึง6ปีหรือมากกว่านั้นทำให้การฉีดไขมันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่าการฉีดฟิลเลอร์ในระยะยาวทั้งในแง่ความสวยงามและความปลอดภัย

ก่อนและหลังเติมไขมันต้องทำอะไรบ้าง

ต้องทำอะไรบ้าง

1. ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความพร้อม
    แพทย์จะตรวจสอบสุขภาพทั่วไปของคุณ รวมถึงตำแหน่งที่ต้องการดูดไขมัน (เช่น หน้าท้อง ต้นขา) และตำแหน่งที่จะฉีดไขมันบนใบหน้า
    หากมีโรคประจำตัว หรือทานยาประจำ ควรแจ้งแพทย์อย่างละเอียด
2. หลีกเลี่ยงยาบางชนิด
    งดการใช้ยาแอสไพริน ยาลดการอักเสบ (NSAIDs) และวิตามินบางชนิด เช่น วิตามินอี หรืออาหารเสริมที่อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ
3. งดบุหรี่และแอลกอฮอล์
    การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อาจลดประสิทธิภาพการติดของไขมันในร่างกาย ควรงดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังการทำ
4. พักผ่อนให้เพียงพอ
    การนอนหลับอย่างเพียงพอช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวและพร้อมสำหรับกระบวนการผ่าตัด
5. เตรียมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย
    สำหรับวันทำหัตถการ ควรใส่เสื้อผ้าหลวมๆ เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนไหวหลังดูดไขมัน

1. งดการกดทับบริเวณที่ฉีดไขมัน
    หลีกเลี่ยงการกด นวด หรือทับบริเวณที่ฉีดไขมัน เช่น การนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ ใช้หมอนรองคอหรือหมอนรองศีรษะเพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันเคลื่อนตัว
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
    การดื่มน้ำช่วยให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปอยู่รอดได้ดีและช่วยฟื้นฟูร่างกาย
3. งดออกกำลังกายหนัก
    ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ใช้แรงมากในช่วง 2 สัปดาห์แรก หากดูดไขมันจากต้นขาหรือต้นแขน ควรใส่ชุดกระชับสัดส่วนตามคำแนะนำของแพทย์
4. เลี่ยงการสัมผัสความร้อนหรือเย็นจัด
    ไม่ควรให้บริเวณที่ฉีดไขมันโดนความร้อนหรือความเย็นจัด เพราะอาจส่งผลต่อการติดของไขมัน
5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
    เพิ่มการรับประทานโปรตีนและไขมันดี เช่น ปลาแซลมอน ถั่ว อะโวคาโด เพื่อช่วยบำรุงร่างกายและเซลล์ไขมัน หลีกเลี่ยงอาหารเค็มจัด เพราะอาจทำให้ใบหน้าบวมนานขึ้น
6. ติดตามอาการและนัดตรวจติดตามกับแพทย์
    ควรพบแพทย์ตามกำหนดเพื่อตรวจสอบผลลัพธ์และดูแลหากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมแดงมากผิดปกติ หรือเจ็บปวด

การฉีดไขมันเป็นวิธีปรับรูปหน้าและเติมเต็มใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติซึ่งการดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ช่วยเพิ่มโอกาสให้ไขมันติดทนและผลลัพธ์ออกมาสวยสมบูรณ์แบบ เช่น หลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณที่ฉีด ดื่มน้ำให้เพียงพอ งดออกกำลังกายหนัก และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การปฏิบัติตามอย่างถูกต้องไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยง แต่ยังช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีและรูปหน้าดูสวยสมส่วนในระยะยาว

การเปลี่ยนแปลงบนใบหน้า หลังเติมไขมัน

1ด
DSC00265_11zon
IMG_7113_11zon

ระยะ 1 เดือน

ระยะ 2 เดือน

ระยะ 3 เดือน

ช่วงบวมน้ำ เนื่องจากเป็นช่วงที่ไขมันยังไม่แข็งแรงและกำลังจะที่พยายามเกาะชั้นไขมันจึงทำให้มีอาการบวม

ช่วงยุบบวมน้ำไขมันยังอ่อน ดูเผินๆเหมือนไขมันที่เติมยุบหายไป จะมีไขมันบางส่วนที่แข็งแรงเกาะชั้นไขมันเรียบร้อยแล้ว

ไขมันเติบโตขึ้นใบหน้าจะเข้าที่ ไขมันใหม่และผสานกับผิวเป็นหนึ่งเดียวถ้ามีการดูแลรักษาที่ดีจะทำให้ไขมันติดที่ใบหน้าไปอีกหลายปี

ระยะเวลาของการบวมช้ำ

การเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าหลังเติมไขมัน

1ด

ระยะ 1 เดือน

ช่วงบวมน้ำ เนื่องจากเป็นช่วงที่ไขมันยังไม่แข็งแรงและกำลังจะที่พยายามเกาะชั้นไขมันจึงทำให้มีอาการบวม

DSC00265_11zon

ระยะ 2 เดือน

ช่วงยุบบวมน้ำไขมันยังอ่อน ดูเผินๆเหมือนไขมันที่เติมยุบหายไป จะมีไขมันบางส่วนที่แข็งแรงเกาะชั้นไขมันเรียบร้อยแล้ว

IMG_7113_11zon

ระยะ 3 เดือน

ไขมันเติบโตขึ้นใบหน้าจะเข้าที่ ไขมันใหม่และผสานกับผิว
เป็นหนึ่งเดียวถ้ามีการดูแลรักษาที่ดีจะทำให้ไขมันติดที่ใบหน้าไปอีกหลายปี

ระยะเวลาของการบวมช้ำ

รวมรีวิวเติมไขมัน

Before 9 Day
Before 16 Day
Before 9 Day
Before 6 Year
Before 14 Day
Before 1 Month
Before 1 Month
Before 7 Day
Before 14 Day
Before 6 Month
Before 3 Month
Before 7 Day
Before 16 Day
Before 6Month
Before 14 Day
Before 3Month
Before 7 Day
Before 7 Day
Before 1 Year
Before 14 Day
Before 14 Day
Before 1 Month
Before 11Month
Before 1 Month
Before 1 Month
Before 14 Day
Before 1 Month
Before 6 Year

รวมรีวิวเติมไขมัน

Before

After

Before 6 Year
Before 9 Day
Before 14 Day
Before 6 Month
Before 1 Month
Before 14 Day
Before 16 Day

จองคิวปรึกษาแพทย์

FAQs คำถามที่พบบ่อย

การเติมเต็มไขมัน ปกติจะอยู่ได้หลายปี โดยเฉลี่ย 5-7 ปี ซึ่งพฤติกรรมคนไข้ก็มีผล เช่น การนวดหน้าใช้ความร้อน นอนดึกบ่อยๆ ดื่มแอลกอฮล์ประจำ หรืออายุที่มากขึ้น ไขมันก็จะลดลงตามกลไกร่างกายของเรา

เทคนิคเฉพาะของคุณหมอต้น พีเมดคลีนิก หลังฉีดไขมันนั้น โอกาสติดสูง ถึง 70% -80% และอยู่ได้นานหลายปี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคนไข้ แต่ละบุคคลด้วยนะคะ
หากคนไข้ที่ต้องการให้ใบหน้าเต็มอิ่มอยู่ตลอด หรือชอบแบบใบหน้ากลมๆ ก็สามารถมาฉีดซ้ำรอบ2 ได้ตามความต้องการค่ะ 

การฉีดไขมันสามารถฟื้นฟูสภาพผิว และช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นใต้ผิวหนังให้กลับมาดูดีขึ้นอีกครั้ง คุณหมอต้นมีเทคนิคพิเศษ เพิ่มGrowth Factor เป็นการใช้สารสกัดจากเลือดด้วยเครื่องแยกพิเศษเข้มข้นกว่าPRP 3 เท่าทำให้ได้สารที่ช่วยให้ไขมันติดดีขึ้น 20% ลดปัญหาบวมนานหลังทำ และช่วยให้ผิวใสลดฝ้าได้60-70% ในครั้งแรก ช่วยให้รูขุมขนเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
ทำให้ผิวนุ่มขึ้นด้วยค่ะ

การฉีดไขมันโดยใช้ไขมันของคนไข้เองไปเติมเต็มในส่วนที่ขาดหรือมีร่องลึกบนใบหน้า ทำให้ใบหน้าได้รูปทรง ดูเด็กลง และใบหน้าดูอิ่มเต็มมีมิติมากขึ้นค่ะ

Location

Scroll to Top