Pmed Clinic ใส่ใจรายละเอียดทุกเคส ทุกขั้นตอน

Pmed Clinic เป็นคลินิกศัลยกรรมความงามที่ให้ความสำคัญกับ มาตรฐานระดับสูง และ ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติภายใต้การดูแลของ คุณหมอต้น นพ.ปิยพล พัฒนครู ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และความชำนาญด้านศัลยกรรม และมีทีมแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทางแต่ละหัตการ พร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบการศัลยกรรมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดบนความปลอดภัยในระยะยาวเป็นสำคัญ

แพทย์เฉพาะทางโสต ศอ นาสิกวิทยา
ศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้า 32058

Pmed Clinic

ตัว P มาจากชื่อของคุณหมอเองคุณหมอ ตั้งใจจะทำคลินิกแห่งนี้ให้ดีที่สุดโดยเอาชื่อของตัวเองเป็นประกัน

13 ปี

ในการเรียนแพทย์เฉพาทางด้านศัลยกรรม

ประสบการณ์มากกว่า 10 ปี

ในการปฏิบัติงานในฐานะศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมความงามและการตกแต่งใบหน้า รวมกับเวลา 9 ปี ระยะเวลาการก่อตั้ง Pmed Clinic

ประสบการณ์ทำมากกว่า 20,000 เคส

ประสบการณ์การทำทุกเคสสวย ด้านการเสริมจมูก แก้จมูก ดูดไขมัน ฉีดไขมันหน้า และเสริมความงามด้านผิวพรรณมากกว่า 20,000 เคส และประสบการณ์ที่ยาวนาน ที่จะทำให้การดูแลรักษา วิเคราะห์สภาพปัญหาต่าง ๆ และการให้บริการคำแนะนำตรงไปตรงมาอย่างละเอียดในการรักษาเคสต่อเคส เพื่อให้ความสวยงามของคุณเป็นไปได้ดั่งใจต้องการโดยคำนึงถึงความสวยแบบปลอดภัยเป็นสำคัญ

อันดับหนึ่ง

ในกลุ่มศัลยแพทย์ที่ทำเคสเติมไขมันมากที่สุดในสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย

Our Specialists

ศัลยแพทย์ที่ Pmed Clinic เรียนจบด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าโดยตรง คุณหมอต้นคัดเลือกทีมงานที่ตนเชื่อมั่นว่า “ต้องเก่งเท่าผมหรือเก่งกว่าผมเท่านั้น”

ช่องทางติดตามผลงาน

พีเมดคลินิก คว้ารางวัล อโรคาโก สตาร์ 5 ดาว ความเป็นเลิศด้านคุณภาพบริการทางการแพทย์ด้านความงาม

          ในวันที่ 28 พ.ค. 2566 ณ ห้องประชุม สโรชา โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดาฯ ดร.แพทย์หญิงประภา วงศ์แพทย์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพไทย และที่ปรึกษาสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ประเทศไทย ได้มอบรางวัล ArokaGO Star ระดับ 5 ดาว (สูงสุด) ให้แก่ “พีเมดคลินิก (PMed Clinic) รับรางวัลโดย “นพ.ปิยพล พัฒนครู” หรือ “หมอต้น” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับโครงสร้างใบหน้า และมีประสบการณ์เสริมความงามด้านผิวพรรณมากกว่า 20,000 เคส

          สำหรับรางวัล ArokaGO Star Award เป็นการรับรองความโดดเด่นของสถานประกอบการในด้านความปลอดภัยและคุณภาพการบริการทางการแพทย์ด้านความงาม การประเมินเกี่ยวกับคุณภาพการบริการนี้ได้ถูกทำขึ้นโดยคณะกรรมการตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เช่น คุณภาพการบริการ (Service Quality), ประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) และ กระบวนการทางธุรกิจที่ยั่งยืน (Sustainable Business Process)

          รางวัล ArokaGO Star Award เป็นการยืนยันถึงคุณภาพและความเป็นเลิศของ PMed Clinic ในการให้บริการทางการแพทย์ด้านความงาม นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้ PMed Clinic มีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมความงามให้เติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย
คณะกรรมการ ArokaGO Star กล่าวอีกว่า “เรายินดีที่ได้มอบรางวัล ArokaGO Star Award ให้กับ PMed Clinic สำหรับความมุ่งมั่นเพื่อความเป็นเลิศและความพึงพอใจของลูกค้า การให้บริการที่ทันสมัยและความทุ่มเทเนั้นสอดคล้องกับพันธกิจในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพในประเทศไทย

          PMed Clinic เป็นคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลด้านความงามมากกว่า 10 ปี โดยทีมแพทย์ที่มีคุณภาพและเชี่ยวชาญในหลากหลายด้าน เช่น เสริมจมูก แก้จมูก ดูดไขมัน ฉีดไขมันหน้า และเสริมความงามผิวพรรณ นอกจากนี้ PMed Clinic ยังมีประสบการณ์ในการดูแลดารา นักร้อง และบุคคลในวงการบันเทิง ทำให้การรักษาเป็นไปตามความต้องการและความปลอดภัยสูงสุด ดังนั้น การได้รับรางวัล ArokaGO Star Award เป็นการยืนยันความพยายามและความมุ่งมั่นของ PMed Clinic ในการให้บริการทางการแพทย์ด้านความงามที่มีคุณภาพและเป็นเลิศ

9

คำถามที่จะทำให้รู้จักคุณหมอต้นปิยพล

          ผมใช้เวลาเรียนแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมทั้งหมด 13 ปีเต็มต่อเนื่องโดยเริ่มต้นที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลแล้วมาต่อยอดที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ด้าน หู คอ จมูกจากนั้นเรียนด้านศัลยกรรมตกแต่งเพิ่มเติมเฉพาะทางโรงพยาบาลจุฬาฯ จนกระทั่งจบเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาแพทย์ที่วชิรพยาบาล และออกมาเปิดคลินิกเมื่อปลายปีพ.ศ. 2556

          ช่วงที่เรียนแพทย์ปีหก ผมเริ่มมองเห็นแนวทางของตัวเองว่าจะเรียนด้านศัลยกรรมตกแต่ง เพราะผมมีความสนใจเฉพาะส่วน นั่นคือใบหน้าซึ่งเป็นจุดเด่นที่สุดของมนุษย์เรา ตอนนั้นมีวิชาศัลยกรรมตกแต่งซึ่งกำลังพัฒนาและเริ่มมีสาขาที่ลงลึกลงไปชื่อว่าวิชาศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้า ซึ่งเป็นการเรียนที่ลงลึกมากขึ้น จำกัดเฉพาะใบหน้า เราเรียนทุกตำแหน่งของใบหน้าลงมาถึงคอ ซึ่งตรงกับความชอบของผมเลย อีกอย่างคือสมัยที่ผมเรียน ประเทศไทยยังไม่ค่อยมีหมอศัลยกรรมเก่งๆ การศัลยกรรมยังไม่ค่อยได้รับการยอมรับ ยังไม่ค่อยมีเคสสวยๆ ให้เห็น ตอนที่ผมทำใหม่ๆ ก็ยังใช้เทคนิคโบราณๆ เช่น ใส่ซิลิโคน ดึงหน้าแผลใหญ่มาก ตาก็ทำแค่ตาสองชั้นธรรมดา ดูดไขมันก็ยังไม่ค่อยมี ผมก็อยากเข้ามาพัฒนาตัวเองและพัฒนาวงการนี้

          อันที่จริงเกาหลีพัฒนาหลังเราอีก เพราะประเทศเขาล้มลุกคลุกคลานกว่าเรา หมอไทยไปเรียนด้านศัลยกรรมที่อเมริกาและที่ดังๆ มาแล้ว แต่เมื่อกลับมาเราทำกันแค่เฉพาะกลุ่ม เพราะคนยังอายเรื่องการทำศัลยกรรม หมอก็มีเพียงกลุ่มเล็กๆ ใช้เทคนิคไหนก็ใช้แค่แบบนั้น เพราะไม่มีคู่แข่ง เทียบกับเกาหลี เขาพัฒนาหลังเราแต่เขาตระหนักว่าการศัลยกรรมความงามแก้ปัญหาของคนในประเทศได้ พวกเขาตั้งเป้าไว้ว่าการทำศัลยกรรมของประเทศเขาจะต้องเป็นที่หนึ่ง จึงมีการรวมกลุ่มกันพัฒนาด้านศัลยกรรมตกแต่งความงามขึ้นมาเป็นระบบและได้รับการยอมรับ ต่อมาเมื่อเกิดกระแสเกาหลีฟีเวอร์ มีโฆษณา ดารา นักร้องเคป๊อปเข้ามา คนไทยเริ่มเห็นว่าดาราเกาหลีทำศัลยกรรมจนเป็นเรื่องปกติ ขนาดว่าสวยอยู่แล้วก็ยังทำนิดหน่อยให้เป๊ะ ช่วงนั้นนับว่าเป็นก้าวกระโดดของวงการศัลยกรรมบ้านเราเพราะทำให้คนไทยมีมุมมองเปลี่ยนไป ตอนนั้นผมกำลังเรียนศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าอยู่ก็มีเคสทำเยอะขึ้นๆ

          เมื่อเทียบกับวงการแพทย์ศัลยกรรมของประเทศไทย เครื่องไม้เครื่องมือ และองค์ความรู้ที่มีไม่ได้แตกต่างกันเลย เพราะว่าองค์ความรู้ที่ได้มาก็มาจากทางฝั่งตะวันตก เป็นองค์ความรู้เดียวกัน แล้วสังเกตว่าช่วงหลังมีเคสคนไทยไปทำที่เกาหลีแล้วพังเยอะขึ้น เพราะหมอเกาหลีอาจจะทำไม่ค่อยละเอียด ไม่เข้าใจใบหน้าคนไทย ทำแล้วไม่ค่อยกลมกลืน หมอบางคนทำออกมาคนไข้หน้าบล็อกเดียวกันหมด เอาเป็นว่าหมอไทยไม่ได้เก่งน้อยกว่าเกาหลีหรอกครับ มีอย่างเดียวที่เขาเก่งกว่าเรา นั่นคือการตอกโหนกตัดกราม เพราะเป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยได้ทำ

          ผมมีความชอบในเรื่องศัลยกรรมความงามและตั้งใจจะทำให้มันดี วิสัยทัศน์ของเราคือ “ทำดีที่สุดเท่าที่ทำได้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยนวตกรรมและประสบการณ์ที่เราได้สั่งสมมา” ผมมีคติที่จะทำให้คนไข้ได้ในสิ่งที่ดีที่สุดและเสียอะไรๆ น้อยที่สุด เช่น ไม่ช้ำ ไม่บวม พักฟื้นน้อย แผลน้อย ทำแล้วไม่ต้องกลับมาแก้ ไม่ทำอะไรเกินความจำเป็น ฯลฯ

          ผมเลือกเคสให้เหมาะกับศัลยแพทย์แต่ละคน คือใครเก่งอันไหนก็ทำอันนั้นไปเลย เป็น Super Specialists ทุกท่านจบเฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งฯ และผมเลือกแต่ทีมงานที่ผมไว้ใจเท่านั้น

          ตอนนี้ ถ้าเป็นเรื่องการทำจมูกกับเติมไขมัน เทคนิคค่อนข้างนิ่งมาก ผมคาดว่าอีก 10 ปีเทคนิคการทำศัลยกรรมทุกอย่างจะนิ่งแล้ว วัดกันที่ประสบการณ์อย่างเดียว แต่ถึงเราจะมั่นใจเราก็ต้องศึกษาเพิ่มเติมตลอด ผมยังต้องไปประชุม ยังส่งทีมแพทย์ไปดูงานเรื่อยๆ ล่าสุดเราไปเกาหลี ดูเรื่องการทำหน้าผากกับยกคิ้ว คือถึงเราจะมีประสบการณ์แต่เราก็ต้องรู้ด้วยว่าคนอื่นเขาทำอะไรกัน ไปถึงไหนแล้ว แต่ถ้าเป็นเทคนิคที่ใหม่มากๆ ผมจะไม่กระโดดไปใช้ทันที ต้องรอดูผลก่อน เพราะบางอย่างก็ไม่จำเป็น ของใหม่ไม่ใช่ว่าดีเสมอไป แต่หลายคนมองว่าของใหม่ๆ มีจุดขายก็เอามาใช้เลย แต่ผมไม่อยากเอาคนไข้ไปทดลอง เราต้องรู้ก่อนว่าทำแล้วได้อะไร ทำแล้วคุ้มไหม

          ผมขายความอาร์ต ความเป็นศิลปะ ความเฉพาะตัว เพราะคนแต่ละคนมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกันเลย และเรื่องการศัลยกรรมมันต้องใช้อาร์ตนำหน้าเสมอ ผมขายประสบการณ์ ขายฝีมือ ที่บอกว่าไม่ขายเทคนิคเพราะจริงๆ แล้วมันมีเทคนิคให้ใช้เยอะมาก เรารู้ทุกเทคนิคแต่การนำมาใช้ต้องดูเป็นเคสๆ ไป ไม่ตายตัว ส่วนเครื่องมือและอุปกรณ์ทุกอย่าง ผมบอกได้ว่าผมเลือกเกรดที่ผมคิดว่าดีที่สุดมาใช้ แต่ไม่อยากโฆษณาหรือไปช่วยเขาขายของ เพราะอันที่จริงมันขึ้นอยู่กับคนที่ใช้เครื่องมือมากกว่า ส่วนเรื่องราคา อย่างที่บอกว่าเราดูเป็นเคสๆ ไป เรื่องราคาจึงอยากให้โทรมาปรึกษาครับ แต่ถ้าเทียบกับของที่อื่น ผมก็คิดว่าของผมไม่แพง

          อยากให้หาข้อมูลมากๆ เพราะปัจจุบันวงการศัลยกรรมบ้านเรายังมีช่องโหว่อยู่ คลินิกศัลยกรรมความงามหลายแห่งก่อตั้งโดยคนที่ไม่ได้ต่อยอดด้านศัลยศาสตร์ความงามและตกแต่งใบหน้า ซึ่งความชำนาญและความคิดมุมมองจะต่างกันมาก คนที่จบเฉพาะทางจะเข้าใจว่าคนไข้ต้องเจออะไรบ้างในแต่ละเคส เราจะกังวลเรื่องความปลอดภัยของคนไข้มาก เรามีครูมีอาจารย์ แต่ละเคสที่ทำมีการควบคุม มีหลักฐานอ้างอิง เคยผ่านวอร์ดง่ายไปหายาก เคยได้มอนิเตอร์คนไข้ทีละวันๆ มาแล้ว ฯลฯ แต่ในท้องตลาดมีหมอที่จบปีหกแล้วเข้าคลินิกเลยเยอะมาก เขาอาจไปเทรนมาบ้างแล้วก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง เคสไหนทำแล้วพลาดก็แค่คืนเงิน แต่คนไข้เสียหายไปแล้ว แบบนี้ก็มีเยอะ เพราะฉะนั้นใครที่ต้องการทำศัลยกรรมจึงต้องหาข้อมูลให้รอบด้าน เช่น เช็กชื่อนามสกุลจากเว็บไซต์ของแพทยสภา ก็จะพอรู้ข้อมูลคร่าวๆ ว่าคนคนนี้จบอะไรมา จบมากี่ปีแล้ว ลองดูรีวิวหลายๆ แห่ง ซึ่งจริงๆ แล้วการรีวิวก็ยังปลอมกันได้นะครับ มันมีกระทั่งการซื้อรูปภาพ Before – After ของคนอื่นมาโชว์แล้วบอกว่าเป็นคลินิกของตัวเองด้วย คือมันต้องเลือกดูให้ดีเลยว่าคนที่จะทำให้เราเป็นใคร มีประสบการณ์แค่ไหน เพราะสิ่งที่เขาทำมันจะอยู่กับคุณไปอีกนานหรือไม่ก็ตลอดไป

ใบรับรอง

ผลงาน

Scroll to Top